‘ไป่ตู้’ชูบริการครบวงจรหนุนกำลังซื้อทัวริสต์จีน

‘ไป่ตู้’ชูบริการครบวงจรหนุนกำลังซื้อทัวริสต์จีน

นักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 8.9 ล้านคนในปี 2559 ตอกย้ำว่าไทยเป็นจุดหมายอันดับต้นเมื่อนักท่องเที่ยวจีนต้องการเดินทางไปต่างประเทศ 

สอดคล้องกับ “ไป่ตู้” เสิร์ชเอนจิ้น หรือ เครื่องมือค้นหาข้อมูลออนไลน์ ที่ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในจีน ยอดใช้งาน 1 ล้านคนต่อวัน จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศ 731 ล้านคน ระบุว่า ในการสืบค้นข้อมูลด้านการท่องเที่ยวผ่านไป่ตู้ “ไทย” เป็น “อันดับ1” ด้านการค้นหา แต่ในเชิงข้อมูลตอบสนองการสืบค้น ยังมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่อยู่ในอันดับ 2 และ 3

พัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งบอกจุดบอดในการทำตลาดออนไลน์เข้าถึงตลาดจีนในช่วงที่ผ่านมา และชี้ให้เห็นว่ายังมี “ช่องว่าง” สำหรับธุรกิจในไทยที่ต้องการส่งเสริมตลาดจีนเติบโต  โดยเฉพาะการเจาะตรงกลุ่มเป้าหมายศักยภาพ ตลาดเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง

จากการสำรวจของไป่ตู้ร่วมกับ Ctrip ธุรกิจออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ (โอทีเอ) รายใหญ่  ระบุว่า ปี 2559 นักท่องเที่ยว FIT เติบโตก้าวกระโดดจากครึ่งปีแรกมีสัดส่วน 59% มาเป็น 74% ในครึ่งปีหลัง

แม้ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ (เอาท์บาวด์) ปีที่ผ่านมาจะมี 130 ล้านคน ใช้จ่ายสะพัด 24 ล้านล้านบาท แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีสัดส่วนเพียง 10% ของประชากร 1,300 ล้านคน เมื่อสำรวจผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก เลือกจุดหมายไทยสูงสุด 19% ซึ่งผลการค้นหาเมืองยอดนิยมของชาวจีน กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ ติดอันดับ 2 และ 5 เทียบเคียงเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างโซล โตเกียว โอซาก้า และนิวยอร์ก

การเข้าถึงตลาด FIT  จะได้อานิสงส์สูงในแง่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เพราะพฤติกรรมกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 25-34 ปี ซึ่งเดินทางสูงสุด 41%  มีความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายสูง และพร้อมจับจ่ายด้านความสะดวกและปลอดภัยเป็นอันดับแรก แทนที่จะคำนึงเรื่องราคาเหมือนกับกลุ่มอื่นๆ

การเดินทางไปต่างประเทศของตลาด FIT  มาจากประชากรที่มีฐานรายได้สูงและปานกลางรวมกัน 83% สังเกตจากการค้นหาข้อมูลของโรงแรมมากกว่าที่พักราคาประหยัดอย่าง โฮสเทล รวมถึงสถิติด้านการใช้จ่าย สูง 6,000-7,000 บาทต่อวัน โดยเลือกจ่ายโรงแรมและชอปปิงมากที่สุด  พักเฉลี่ย 6-7 วันต่อครั้ง การใช้จ่ายขั้นต่ำต่อทริปเฉลี่ย 4 หมื่นบาท

พฤติกรรมที่น่าสนใจและแตกต่างจากตลาดอื่น คือ การ Re-Booking หรือจัดการจองบริการและสินค้าท่องเที่ยวระหว่างเดินทางมาถึงแล้ว ซึ่งชาวจีน 30% ที่เดินทางมาไทยมักตัดสินใจเพิ่มเฉพาะหน้า เช่น เมื่อวางแผนเดินทางมาเที่ยว 6 คืน 7 วัน แต่จองที่พักไว้ 2-3 คืนแรก จากนั้นจะตระเวนหาที่พักที่ชื่นชอบและใช้ช่องทางออนไลน์จองนาทีสุดท้ายในคืนที่เหลือ

ในการเป็นเสิร์ชเอนจิ้นที่ชาวจีนใช้งานมากที่สุดด้วยจำนวนการค้นหา 1 หมื่นล้านครั้งต่อวัน ทำให้ไป่ตู้มีข้อมูลเชิงลึกด้านความต้องการของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาจึงวางกลยุทธ์บุกทำตลาดผู้ประกอบการด้านโรงแรมต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีนี้ โดยร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) แนะนำ “ไป่ตู้ แอคเซส” ต่อยอดความร่วมมือด้านการตลาดระดับประเทศ จากปีที่ผ่านมาร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  จัดทำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวผ่านไป่ตู้แมพ บริการแผนที่ให้ท่องเที่ยวชาวจีน 75% ใช้เมื่อเดินทางต่างประเทศ

ไป่ตู้ แอคเซส มีบริการ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ วิเคราะห์ด้านการตลาดจากการจัดเก็บข้อมูลเปรียบเทียบคู่แข่ง,  เพิ่มการรับรู้ด้วยการโปรโมทโรงแรมในเว็บไซต์ชั้นนำของจีนและช่องทางสื่อสารต่างๆ เช่น วีแชท และเว่ยโป๋, เพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ผ่านไป่ตู้ดอทคอม และจัดให้บริการธุรกิจท่องเที่ยวลงในแผนที่ไป่ตู้ แมพ  ที่ผ่านมาไป่ตู้จับมือกับองค์กรท่องเที่ยวและหลายธุรกิจในไทย เช่น ททท. ห้างสรรพสินค้า ไตรมาส 2 นี้ จะเจาะธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งสนใจใช้ช่องทางออนไลน์เจาะตลาดจีนและค้นหาบริการด้านการตลาดออนไลน์ของไป่ตู้มากเป็นอันดับ 2