'อิตัลไทย'ดันธุรกิจ 'โรงแรม-ก่อสร้างงานระบบ'

'อิตัลไทย'ดันธุรกิจ 'โรงแรม-ก่อสร้างงานระบบ'

"อิตัลไทย" ดันธุรกิจ "โรงแรม-ก่อสร้างงานระบบ" หัวหอกเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ต่างประเทศ พร้อมวางโรดแมพ 5 ปีส่ง 5 บริษัท กวาดรายได้แตะ 3 หมื่นล้าน

หลังรัฐบาลวางเป้าหมายลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ระบบขนส่งมวลชนระบบราง ถนน รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่อง จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนไทยกว่า 32.5 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องจักรกลหนักและรับเหมาก่อสร้างครบวงจร และธุรกิจบริการและไลฟ์สไตล์ประเมินว่าในระยะ 5 ปีจากนี้ธุรกิจในกลุ่มจะสดใส

จากปัจจัยดังกล่าว นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอิตัลไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2560 ทั้งกลุ่มจะมีรายได้รวม 17,200 ล้านบาท เติบโต 16% จากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักและรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร 9,721 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวมเครือ ส่วนกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์ จะสร้างรายได้ 7,477 ล้านบาท คิดเป็น 44% ของรายได้รวมเครือ

โรดแมพ 5 ปีกำไรเพิ่ม "เท่าตัว" 

นอกจากนั้นตามแผนปฏิบัติการ (โรดแมพ) ในระยะ 5 ปี (2560-2564) คาดว่ากลุ่มจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือราว 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ธุรกิจจะเผชิญอุปสรรคจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ก็ยังรักษาการเติบโตเฉลี่ยต่อปีได้มากกว่า 10% อีกทั้งการขยายงานทุกหน่วยธุรกิจที่ผ่านมา จะเน้นการดำเนินธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนแน่นอน โดยคาดการณ์ว่าภายใต้โรดแมพดังกล่าว มีโอกาสที่ธุรกิจในฝั่งบริการที่มีการลงทุนและรับบริหารโรงแรมจะเป็นหัวหอกสำคัญ ในการขยับสัดส่วนรายได้แซงหน้าธุรกิจเครื่องจักรกลหนักและรับเหมาฯ จาก 44% ในปีนี้เป็น 60-65% เมื่อสิ้นสุดแผน

ดันรายได้ต่างประเทศ

นอกจากนี้ กลุ่มอิตัลไทยจะเน้นการสร้างรายได้จากการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจในไทยมากถึง 90% แต่ใน 5 ปีจากนี้ จะผลักดันรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 25% โดยมีธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นหัวหอกในการทำรายได้จากต่างประเทศ จะมาจาก บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด (ไอทีอี) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ซึ่งเชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าและสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งภายในและต่างประเทศ

และออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการโรงแรมขนาดกลางที่ดีที่สุดในเอเชีย อีกทั้งบริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนัก

เจาะธุรกิจวิศวกรรม "ซีแอลเอ็มวี" 

สำหรับบริษัทอิตัลไทยวิศวกรรม ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 5,381 ล้านบาท เติบโต 8% ซึ่งหลังจากวางกลยุทธ์การเป็นผู้นำการก่อสร้างงานระบบในระดับที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และได้รับมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ซึ่งเป็น ISO เวอร์ชั่นล่าสุด ร่วมกับ ISO 14001 : 2015 และ OHSAS 18001 : 2007 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานด้านอาชีวอนามัย จะนำมาตรฐานดังกล่าวไปขยายงานยังประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) จากที่ปัจจุบันเริ่มขยายธุรกิจและการลงทุนในเมียนมาไปแล้ว และเห็นโอกาสการเติบโตอีกมาก

นายยุทธชัย กล่าวด้วยว่า วางตำแหน่งบริษัทอิตัลไทยวิศวกรรม เป็นผู้เชี่ยวชาญงานที่มีมาตรฐานสูง เน้นเทคโนโลยีความปลอดภัยสูง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นตลาดเฉพาะ แต่การเติบโตค่อนข้างมั่นคง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สามารถพลิกทำรายได้จาก 1,300 ล้านบาท ขึ้นมาอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท

ตั้งเป้าบริหารโรงแรมเพิ่ม 6 ประเทศ

ส่วน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในธุรกิจบริหารโรงแรม วางเป้าหมายรายได้ไว้ 4,100 ล้านบาท เติบโต 10% เตรียมขยายแผนดำเนินธุรกิจระยะที่ 2 ภายใต้ชื่อ “Delivering Success” โดยถือเป็นธุรกิจในกลุ่มอิตัลไทยที่มีศักยภาพในการขยายไปต่างประเทศมากที่สุด ปัจจุบันดำเนินงานทั้งสิ้นแล้วใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย, จีน, ฮ่องกง, ศรีลังกา, มัลดีฟส์, บังกลาเทศ และกาตาร์ ตั้งแต่ปีนี้จะมีโครงการที่จะทยอยเปิดในอีก 6 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, เวียดนาม, ลาว, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย และอินเดีย

นายปีเตอร์ เฮนลีย์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เสริมว่า วางเป้าหมายว่าในปี 2567 จะมีโรงแรมให้ครบ 99 แห่ง ขณะนี้มีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว 42 แห่ง รวมกว่า 6,622 ห้อง มีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 25 แห่ง

ส่วนจำนวนโรงแรมในและต่างประเทศที่เปิดแล้วมี 50% เท่ากัน แต่เมื่อเทียบสัดส่วนรายได้ในไทยขณะนี้ยังสูงกว่าเพราะมีโรงแรมที่เป็นเจ้าของกิจการอยู่มาก แต่ในปี 2561 คาดว่าจะปรับสัดส่วนจำนวนโรงแรมจากต่างประเทศเป็น 70% ส่งผลให้รายได้ในปี 2561 รายได้จากการลงทุนและรับบริหารโรงแรมต่างประเทศจะเพิ่มจาก 30% เป็น 40%

ลงทุน 3,500 ล้านปีนี้

ด้านนายยุทธชัย กล่าวด้วยว่า ในงบประมาณการลงทุนหลักในปีนี้กว่า 90% หรือราว 3,500 ล้านบาท จะทุ่มให้กับกลุ่มโรงแรม โดยเฉพาะ มี 2 โครงการใหญ่ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ ได้แก่ การทุบโรงแรมอมารี พัทยา อาคารเก่าลง 1 ตึก เพื่อพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวที่มีอยู่ 32 ไร่ให้เต็มศักยภาพ โดยมีแผนใช้งบราว 2,500 ล้านบาท สร้างโรงแรมใหม่ 2 แบรนด์ ได้แก่ อมารี ซึ่งมีอยู่แล้วและ โอโซ่ ซึ่งเป็นแบรนด์เจาะตลาดระดับกลางของออนิกซ์ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562

นอกจากนั้น เตรียมลงทุนอีก 1,000 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงแรมโอโซ่ ภูเก็ต บนหาดกะตะ และมีแผนจะเข้าไปร่วมทุนในโครงการที่เข้ารับบริหารต่างประเทศที่มีทำเลหรือนักลงทุนที่น่าสนใจ โดยสัดส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ราว 15-20%

ขณะเดียวกัน มีแผนการตั้งกองทุนส่วนบุคคลเพื่อลงทุนในโครงการโรงแรมอื่นๆ โดยออนิกซ์จะเข้ารับบริหาร ได้แก่ โรงแรมโอโซ่ ในมัลดีฟส์ เพื่อเจาะศักยภาพตลาดระดับกลางโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นโรงแรมในเครือแห่งที่ 2 ในทำเลดังกล่าว หลังจากที่นำแบรนด์อมารีเข้าไปบุกเบิกตลาด และเห็นผลตอบแทนน่าพอใจมาแล้ว

“ใน 5 บริษัทที่มีอยู่ จะมี 2 บริษัทที่ขยายไปยังตลาดเพื่อนบ้าน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและรับเหมา ส่วนอีก 3 บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตระดับภูมิภาคได้” นายยุทธชัย กล่าว