ปตท.เดินสายโรดโชว์นอกรุกธุรกิจนอนออยล์

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะไปพบนักลงทุนสถาบันใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ แคนาดา และ สหรัฐเอเมริกา ร่วมกับ บล.ยูบีเอส เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแผนงานของบริษัท ทั้งนี้สัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติปัจจุบันอยู่ที่ 15 -16% ลดลงจากอดีตที่ 18-19 % เป็นเพราะตลาดหุ้นไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น

บริษัทมีแผนขยายธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายน้ำมัน (นอนออยล์) ให้มากขึ้น เพราะมีอัตรากำไรที่ดีกว่า ทั้งการขยายจำนวนปั้มน้ำมันในต่างประเทศให้เป็น 500 แห่งในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะเน้นในกลุ่มประเทศใกล้เคียง ทั้งกัมพูชา พม่า ลาว

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินขยายสาขาร้านกาแฟ อเมซอน ในต่างประเทศเช่นกัน โดยเตรียมจะเข้าไปเปิดสาขาในประเทศเมียนมา ส่วนการเปิดให้บริการโรงแรมในสถานีให้บริการน้ำมันนั้นปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากพบว่ามีบางส่วนที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมอยู่ และยังมีความสนใจที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนกำไรก่อนหัก ดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากธุรกิจนอกเหนือน้ำมันอยู่ที่ 3,757 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 20% ของหมด จากทั้งหมดที่ 23,677 ล้านบาท

แนวโน้มผลประกอบการในปี2560 คาดว่าจะมีการเติบโตจากปี 2559 เนื่องจากราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 50 -55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นผลจากการบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากการราคาก๊าซที่ทิศทางดีขึ้น โดยปีนี้มีแผนจะปรับเปลี่ยนสถานีให้บริการก๊าซที่ใกล้หมดสัญญาให้มาอยู่ใกล้แนวท่อก๊าซมากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ส่วนในปัญหาการขาดทุน ขาดทุนจากการให้บริการเอ็นจีวี ปีละ 4,000 ล้านบาท บริษัทคาดหวังการผ่านพ.ร.บ.กองทุนพลังงานแห่งชาติ จะเข้ามาช่วย ซึ่งหากสามารถบังคับใช้ได้เร็วจะช่วยลดภาระการขาดทุนของบริษัทในส่วนดังกล่าวได้