ครม.ไฟเขียวลงทะเบียนคนจน 3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้

ครม.ไฟเขียวลงทะเบียนคนจน 3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้

ครม.ไฟเขียวลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้ พร้อมเพิ่มเงื่อนไขมีทรัพย์สินรวมรายได้ไม่เกิน 1 แสน-ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาฯ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 โดยมีการปรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนที่จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 3 เมษายน-15 พฤษภาคม 2560 ดังนี้

ผู้ลงทะเบียนจะต้องมีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยต้องเกินก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2542 เป็นคนว่างงานหรือมีรายได้ที่เกินขึ้นในปี 2559 ไม่เกิน 100,000 บาท ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

นอกจากนี้ จะต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย หรือ ถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีบ้านหรือ ทาวเฮ้าส์จะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ห้องชุดมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร ส่วนกรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช้เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

สำหรับในปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 8,375,383 คน เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินโอน 7,715,359 คน และผู้ไม่มีสิทธิ์ 660,024 คน เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว ชื่อ-นามสกุลผิด มีรายได้เกิน 100,000 บาท และไม่เป็นเกษตรกรที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ซึ่งหลังสิ้นสุดมาตรการมีผู้ได้รับเงินโอนทั้งสิ้น 7,525,363 คน และมีผู้ไม่ได้รับเงินโอน 189,996 คน เนื่องจากไม่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ไม่มาติดต่อธนาคาร หรือบัญชีติดอายัด

ทั้งนี้ สำหรับผู้มาลงทะเบียนในปี 2559 ที่ผ่านมา ผู้ลงทะเบียนได้รับสวัสดิการ ประกอบด้วย มาตรการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย โดยครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ให้โอนเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นเกษตรกรรายละ 3,000 บาท สำหรับเกษตรกรที่มีรายได้ในปี 2558 ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และรายละ 1,500 บาท สำหรับเกษตรกรที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกร โดยให้โอนเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตร รายละ 3,000 บาท กรณีมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาท และรายละ 1,500 บาท กรณีมีรายได้ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท