หอการค้าคาดไทยส่งออกสหรัฐเพิ่มขึ้น1.7หมื่นลบ.

หอการค้าคาดไทยส่งออกสหรัฐเพิ่มขึ้น1.7หมื่นลบ.

"ม.หอการค้า" คาดไทยส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น 17,240 ล้านบาท ชี้ต้องเร่งเจรจาอาร์เชพ-เอฟทีเอ เตรียมรับมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าได้ศึกษานโยบายการค้าของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่มีผลกระทบต่อการส่งออกไทยในตลาดสหรัฐ พบว่า โดยภาพรวมแล้วไทยยังคงส่งออกไปสหรัฐได้เพิ่มขึ้น 17,240 ล้านบาท แต่หากแยกเฉพาะ 4 นโยบายหลักแล้ว จะทำให้ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 2,582 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมปัจจัยราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ไทยส่งออกได้มากกว่าที่ประเมินไว้
 
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปไทยจะต้องเร่งเดินหน้าเจรจาเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซพ) เจรจาการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหรัฐ และเตรียมพร้อมรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ที่จะเข้มข้นขึ้น ทั้งการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มาตรการสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช มาตรฐานสิ่งแวดลอ้ม และด้านแรงงาน
 
ทั้งนี้ ไทยจะได้รับผลดีจากการที่สหรัฐจะเน้นนโยบายการค้า ด้วยการเจรจาทางการค้าแบบทวิภาคี โดยเฉพาะกับญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้มีปัญหากับสหรัฐ จึงทำให้ญี่ปุ่นส่งออกไปสหรัฐได้มากขึ้น ทำให้ไทยได้รับอานิสงส์การส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย จากการที่ไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าป้อนญี่ปุ่น (ซัพพลายเชน) อีก 37,474 ล้านบาท  ที่สำคัญ การยกเลิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ทำให้ไทยส่งออกไปได้เพิ่มขึ้น 11,890 ล้านบาท จากการที่ประเทศคู่แข่งไม่มีแต้มต่อด้านภาษีอีกต่อไป แต่กรณีทีพีพีนั้น ไทยยังได้เปรียบน้อยกว่าเวียดนาม 9 เท่าตัว จากที่เวียดนามจะส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึง 985,715 ล้านบาท