จับเนื้อโคเถื่อนกว่า3ตัน มูลค่ากว่า1.6ล้าน

ที่ด่านศุลกากรหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายทิลัก แมขุนทด อาย 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287 หมู่ 2 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางเนื้อโคบรรจุในกล่องกระดาษสีเขียว มีเครื่องหมายระบุผลิตจากประเทศอินเดีย จำนวน 3,800 กิโลกรัม บรรทุกมาในรถกระบะโตโยต้า สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน กม 6927 กรุงเทพมหานคร มีผ้าใบปิดทับมิดชิดแน่นหนา

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า นายกุลิศสมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากรได้สั่งการให้เข้มงวดปราบปรามขบวนการลักลอบเนื้อโค กระบือหลบหนีภาษีศุลกากรเข้ามาในราชการอาณาจักร ซึ่งจากงานการข่าวสืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำเนื้อที่ไม่ผ่านการตรวจเข้ามาในประเทศ ผ่านพื้นที่ จ.มุกดาหาร เข้าพื้นที่ จ.อุดรธานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปสกัดและจับกุม จนกระทั่งเวลา 05.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวขับมาตามถนนนิตโย สาย อ.หนองหาน–อุดรธานี จึงได้เรียกให้เข้าไปในภายในปั๊มน้ำมันข้างทางในเขต อ.หนองหาน หลังการตรวจค้นที่กระบะพบเนื้อโค คุณภาพดี มูลค่าเนื้อและรถของกลางยังไม่รวมภาษีและค่าปรับประมาณ 1.6 ล้านบาท จึงได้ควบคุมตัวและตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนเบื้องต้นนายทิลัก แมขุนทด ให้การว่า มีชายคนหนึ่งว่าจ้างให้ตนไปขับรถบรรทุกเนื้อจากบ้านหลังหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เมือง จ.มุกดาหาร ให้นำมาส่งลูกค้าที่ จ.หนองคาย เมื่อมาถึงทางแยกหนองสองห้อง จะมีคนมารับช่วงนำเนื้อไปส่งยังห้องเย็นต่าง ๆ ภายใน จ.หนองคาย โดยจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท จึงแจ้งข้อหาลักลอบหรือนำพาของที่ยังไม่ชำระภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร มีเจตนาฉ้อภาษีของรัฐ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย

 นายนิมิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่2ในรอบ3เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตรวจยึดได้เป็นเนื้อกระบือน้ำหนักรวม6ตัน แต่ครั้งนี้เป็นเนื้อโคล้วน ๆ หนัก3.8ตัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นขบวนการเดียวกันกับที่เคยปล้นของกลางจากเจ้าหน้าที่เมื่อครั้งก่อนและเนื้อโคกระบือที่ตรวจจับได้แต่ละครั้งเป็นการลักลอบนำเข้าประเทศ โดยไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพเนื้อปลอดโรคหรือไม่ ประชาชนมีความสุ่มเสี่ยงต่อที่อาจมีเชื้อโรค เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ความคุมโรคระบาดสัตว์ ซึ่งศุลกากรหนองคายจะมีการขยายผลจับกุมต่อไป อย่างน้อยรวม8จุดในเขตพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่นที่จะต้องเข้าตรวจสอบในเร็ว ๆ นี้ ส่วนเนื้อโคที่จับกุมและตรวจยึดมาทั้งหมดจะนำไปทำลายด้วยการขุดหลุมฝังกลบต่อไป.