BJC - ถือ

BJC - ถือ

ถอยออกมาซักพัก

ประเด็นการลงทุน

BJC อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและปรับโมเดลธุรกิจในเครือ การเติบโตระยะสั้นอาจยังไม่น่าสนใจ ส่วนการเติบโตจากการขยายธุรกิจในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งเรามองว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการลงทุนใน BJC นั้นอาจ คาดจะยังไม่เห็นชัดเจนมากนักในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย PER ปัจจุบันที่ 30 เท่า รวมถึงอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายที่จำกัด เราจึง
คงคำแนะนำ “ถือ” BJC

กำไรต่อหุ้นปี 2560 อาจโตไม่เร้าใจ

กำไรต่อหุ้นปี 2560 ของ BJC อาจโตได้ไม่มากนัก เนื่องจากปัจจัยหนุนมีเพียงการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของ BIGC และผลประโยชน์ร่วมจากการรวมกิจการระหว่าง BJC และ BIGC ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆมีแนวโน้มเติบโตได้ไม่มากนัก ผลประกอบการธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดว่าจะเติบโตได้เพียงเล็กน้อยในปีนี้เนื่องจากโรงงานผลิตที่เต็มกำลังการผลิตแล้ว อีกทั้งได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ส่วนยอดขายสายธุรกิจอุปโภคบริโภค อาจสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งอย่างที่บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่มากกว่า 10% แต่ในแง่ของกำไรนั้น อาจไม่มากนัก เนื่องจากยอดขายที่เติบโตส่วนหนึ่งมากจากธุรกิจเทรดดิ้งในเวียดนามซึ่งมีอัตรากำไรน้อย อีกทั้งกำไรจากสายธุรกิจอุปโภคบริโภคคิดเป็นเพียงประมาณ 6% ของกำไรทั้งหมดของ BJC เท่านั้น

BIGC ฟื้นตัวอย่างช้าๆ

อัตรากำไรขั้นต้นของ BIGC มีแนวโน้มเป็นไปตามประมาณการของเรา โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 16% สูงขึ้น 1.3% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ยกเลิกการขายสินค้าแบบค้าส่งที่ไม่มีกำไรตั้งแต่กลางปี 2559 ส่วนยอดขายของ BIGC น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน โดยยอดขายที่คาดว่าจะลดลงในครึ่งปีแรกจากการเปลี่ยนกลยุทธ์ จะถูกชดเชยด้วยยอดขายที่เติบโตจากการเร่งขยายสาขาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในปีนี้ BIGC วางแผนจะเปิดไฮเปอร์ มาร์เก็ต 9 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดในครึ่งหลังปี 2560 ส่วนแผนการเปิด BigC Market 2 สาขา และ Mini BigC 200 สาขานั้นจะทยอยเปิดเท่าๆกันทั้งปี  อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหารมีแนวโน้มสูงกว่าที่เราคาดจากการเพิ่มพนักงานและฝึกอบรมเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต เราได้ปรับลดประมานการกำไรของ BIGC และ BJC ปี 2560 ลง 6% เป็น 7.1 ล้านบาท และ 6.3 ล้านบาท ตามลำดับ

การเติบโตจะกลับมาน่าตื่นเต้นในปี 2560 และหลังจากนั้น

ผลกระทบจากการขยายสาขาของ BIGC ในช่วงครึ่งหลังปี 2560 เตาผลิตแก้วเตาใหม่ที่จะเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 4/60 ผลประโยชน์จากการควบรวม และอุปสงค์ภายในประเทศที่ดีขึ้น น่าจะช่วยหนุนให้การเติบโตของกำไร BJC เร่งตัวขึ้นเป็น 19% ในปี 2561 หากมองไปข้างหน้าจากนั้น การลงทุนของ BJC ในเวียตนาม ลาว และกัมพูชา จะเริ่มผลิดอกออกผลและจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักต่อผลประกอบการของบริษัท ทั้งนี้ได้มีการเริ่มส่งพนักงานของ BIGC ที่มีความเชี่ยวชาญสูงเข้าไปช่วยธุรกิจค้าปลีกในต่างประเทศของ BJC โดยร้านสะดวกซื้อ B’s Mart ในเมืองโฮจิมินน่าจะเริ่มกลับมาขยายสาขาได้อีกครั้งหลักการปรับโมเดลธุรกิจแล้วเสร็จ อีกทั้ง MM Mega Market ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งแบบ Cash & Carry ในประเทศเวียดนามน่าจะเริ่มทำกำไรได้ ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้ถือหุ้น BJC อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อกิจการได้ อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวมผลประกอบการจากการขยายธุรกิจ ในต่างประเทศเข้ามาคิดในประมาณการของเรา