BLA - ซื้อ

BLA - ซื้อ

เน้นผลิตภัณฑ์กำไรสูงกินสำรองฯน้อย

ประเด็นการลงทุน

BLA จะคงนโยบายการเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูงต่อเนื่องจากปีก่อน อันได้แก่ ประกันชีวิตตลอดชีพ, ประกันชีวิตประเภท กองทุนบำเหน็จบำนาญ, เครดิตไลฟ์ และประกันชีวิตออมทรัพย์ที่ขายพ่วงกับ ประกันภัยอื่นๆ(เช่น ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคนและประกันสุขภาพ) นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ใช้สำรองฯสำหรับหนี้กรมธรรม์ประกันชีวิตน้อยกว่ากรรมธรรม์อื่นๆ และทำให้กินเงินสำรองฯน้อยเราที่ประเมินปี 2560 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวทำให้ผลประกอบการ BLA มีอัพไซด์ อย่างไรก็ตาม เราคงประมาณการเชิงอนุรักษ์ เรายังคงประมาณกำไรปี 2560 จำนวน 5.8 ล้านบาท, เพิ่ม 13.5% YoY และเป็น 6.6 ล้านบาทในปี 2561, สูงขึ้น 13.8% YoY เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย 65 บาทมาจากมูลค่า
กิจการ (NAV) 39.8 บาท/หุ้น และ มูลค่าการสร้างธุรกิจใหม่ (VNB) ที่ 25.2/หุ้น

เน้นการเติบโตผลิตภัณฑ์ให้กำไรสูง

จากที่ BLA เน้นนโยบายการขายสินค้าระยะยาวอย่างต่อเนื่องปี 2560 เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะหนุนให้ผลประกอบการดีขึ้น (เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ขายจะให้อัตรากำไรสูงกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ) สังเกตว่าเบี้ยประกันปีแรก (FYP) ในปี 2559 ของบริษัทลดลง 18% YoY เป็น 1.12 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีรายได้เบี้ยประกันชีวิตรวม 2559 ลดลง 3% เป็น 4.33 หมื่นล้านบาท แต่กำไรปี 2559ของบริษัทกลับเติบโต 24.4% เป็น 5.1 พันล้านบาทจากการเน้นสินค้าที่ให้กำไรสูง ดังนั้นเราคาด BLA จะรายงานเบี้ยประกันปีแรกและรายได้เบี้ยประกันรวมทั้งหมดในปี 2560 ดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากมีประกันสุขภาพแบบใหม่และผลิตภัณฑ์ระยะยาว เช่น ซีเนียร์ สุขใจ, ซีเนียร์แคร์, กองทุนบำเหน็จบำนาญ และ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์พ่วงประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง (บีแอลเอ เฮลธ์ พลัส) ได้รับการตอบรับดีต่อเนื่องจากปีก่อน

มีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองกรรมธรรม์มีแนวโน้มลดลง...

การเน้นผลิตภัณฑ์ระยะยาวที่ให้อัตรากำไรสูงบ่งชี้ถึงบริษัทสามารถตั้งสำรองฯสำหรับหนี้กรมธรรม์ประกันชีวิตลดลงในปี 2560 หลังจากที่มีการตั้งสำรองฯในระดับที่ต่ำปี 2559 ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 62% ของรายได้เบี้ยประกันรวมทั้งหมดที่ 4.3หมื่นล้านบาท) อีกทั้งผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวมีแนวโนมแข็งแกร่งหนุนโดยแนวโน้มอัตรา
ดอกเบี้ยอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้น BLA คาดจะไม่มีการตั้งสำรองพิเศษสำหรับความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวขาลงอีกเหมือน 2 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามเรายังคงประมาณการเชิงระมัดระวัง ว่า BLA จะมีการตั้งสำรองฯ ประมาณ 66% ของรายได้เบี้ยประกันชีวิตรวมทั้งหมด (สูงกว่า 62% ในปีที่แล้ว แลที่บริษัทประเมินไว้ที่ 56-58% ในปี
2560) สังเกตว่าบริษัทจะมีแผนจ่ายผลตอบแทนกรรมธรรม์ที่ครบกำหนด ในปี 2560 จำนวน 7 พันล้านบาทเทียบกับ 3 พันล้านบาทในปีก่อน

อัตราผลตอบแทนการลงทุนอยู่ระดับสูง...มีอัพไซด์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

เราคาดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน จะอยู่ที่ 5% ซึ่งใกล้เคียงกับที่บริษัทประเมิน แต่ต่ำกว่า 5.2% ในปีที่แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะสูงจากช่วงปลายปีที่แล้วจะเป็นโอกาสให้ BLA เพิ่มอัตราส่วนในพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตลงทุนต่างประเทศจำนวน 3.1 หมื่นล้านบาท (11% ของการลงทุนทั้งหมดที่ 2.7แสนล้านบาท) อยู่ในพันธบัตรที่ใช้ค่าเงินต่างประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนกว่า 6% เราประเมินว่าบริษัทจะรายงาน ROI ปี 2560 ที่ 4.98% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากปลายปี 2559 จะบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเพิ่มประมาณการกำไรของเรา

... สัดส่วนเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงยังเพียงพอต่อการเติบโตระยะยาว

จากการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูง เราคาดสัดส่วนเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงปี 2560 ของ BLA จะอยู่ที่ 252% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว นอกเหนือจากการขยายธุรกิจ ผู้บริหารกล่าวว่าสัดส่วนเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะทำให้ BLA รุกสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น (เช่น เพิ่มหุ้น, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ) เพื่อทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนแข็งแกร่งขึ้น