'ไทบ้านเดอะซีรีส์' มาแรง..คนแห่ชมแน่นโรงหนัง

'ไทบ้านเดอะซีรีส์' มาแรง..คนแห่ชมแน่นโรงหนัง

ปรากฎการณ์ "ไทบ้านเดอะซีรีส์" มาแรง..คนแห่ชมแน่นโรงหนัง

กระแสปากต่อปากผ่านโซเชียลออนไลน์ว่า "โรงหนังแตก" ทำให้ "ไทบ้านเดอะซีรีย์" ภาพยนตร์ฟอร์มเล็ก กลายเป็นหนังไทยที่น่าจับตามองในช่วงต้นศักราชนี้ไปแล้ว

จึงต้องพิสูจน์ว่า หนังไทบ้านเดอะซีรีส์ มีดีที่ต้องเสียเงินและหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อเดินเข้าโรงหนังหรือเปล่า

ช่วงเย็นวันอาทิตย์ (26ก.พ.) เลยตีตั๋วราคา 240 บาท ที่โรงหนังเมกา ซีนีเพล็กซ์ (บางนา) พอเข้าไปในโรงแล้ว พยายามสังเกตที่นั่งก็เกือบเต็ม มีที่ว่างอยู่แถวหน้าสุด ซึ่งคำว่า "หนังมีกระแส" เห็นท่าจะจริง

เปิดเรื่องมา ถือสามารถดึงคนเข้าสู่หนังได้ดี เปรียบเทียบหนังแนวกันบางเรื่องเปิดเรื่องมาไม่ดี ต้องไปลุ้นกลางเรื่องว่าจะมีอะไร และให้ได้อรรถรสบ้าง

หนังเล่าเรื่องแบบดูเพลินดี การใช้ภาษาอีสานแบบ "ผู้บ่าวแนว" ถือว่า "ดิบดี" คือเป็นภาษาที่วัยรุ่นอีสานในหมู่บ้านใช้กัน ทำให้เรียกเสียงหัวเราะได้เรื่อยๆ แบบไม่ถึงกับฮาร้องก๊ากก็ตาม

สำหรับเนื้อหนัง พล็อตเรื่องไม่มีอะไรมาก โจทย์คือผู้บ่าวไทบ้านชีวิตไม่มีอะไรทำ มีเพื่อนแนะนำหาแฟนสักคน แต่สามารถ "สร้างเรื่องธรรมดา" ให้น่าสนใจ ด้วยการผูกเรื่องขยายความชวนติดตาม และตัวละครเดินเรื่องคือ "บักลอด" หรือ "จาลอด" (ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ) เป็นพระเอกที่หน้าตาตลกปนน่าสงสาร ซึ่งแถวบ้านนอกแต่ละหมู่บ้านมักจะมีคนแบบนี้ คือซื่อๆ ใสๆ ง่ายๆ แต่ไม่ได้โง่ให้ใครหลอกง่ายๆ ยกเว้นเต็มใจให้หลอกเสียมากกว่า

ตัวละครสีสัน อย่าง "บักเซียง" (ตาต้าร์ ชาติชาย) เพื่อนของจาลอด ถือว่าเป็นตัวช่วยเหมือนให้หนังเล่าเรื่องได้ต่อเนื่อง โดยหนุนให้ตัวเอกมีบทบาทน่าติดตามว่าชีวิตจะไปต่อยังไง

ส่วนนางเอก อย่าง "ครูแก้ว" (นะโม ธันวาพร) เหมือนเธอเก็บงำความรักความหลังที่ไม่สวยงามไว้ในใจ พูดง่ายๆ คือแสดงบทอมทุกข์แบบเงียบๆเหงาๆ ได้ดี จนมาเจอจาลอด ชีวิตเธอจึงชีวิตชีวาขึ้น

และ "หมอปลาวาฬ" (ฟิฟิลม์ สิริอมร) สาวรุ่นคนสวยที่เจ็บช้ำใจ หลังเผลอมีใจให้จาลอด

ขณะเดียวกัน หนังพยายามผูกเรื่องดึงตัวละคร อย่าง "ป่อง" ลูกผู้ใหญ่บ้าน เรียนจบจากกรุงเทพฯ หนีความหลอกลวงมาบ้านนอก จะเปิดร้านเซเว่นฯ แต่พ่อมีเงื่อนไขว่าทำนาให้เป็นก่อน

ถามว่า ความสนุกและให้แง่มุมของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงไหน ประการแรกเลยคือ "ทันสมัย" เพราะตัวละครเล่นแชทเฟซบุ๊ค เป็นต้น ไม่ได้ย้อนยุคว่าบ้านนอกแล้วจะไม่เข้าถึงเทคโนโลยี โดยการเล่าเรื่องไม่เครียด

ถัดมา คือ "สะท้อนไทบ้าน" ในหมู่บ้านในตจว.มีเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ ที่เป็นปัญหาอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีใครหยิบขึ้นมาบอกเล่า โดยเฉพาะเรื่อง "วัยรุ่นวุ่นเซ็กซ์" บทบาทของ "บักเซียง" นำเสนอเรื่องการได้เสียกับหญิงสาวเป็นว่าเล่นและเป็นอะไรที่ง่ายมาก ซึ่งหนังไม่ได้บอกว่าดี-ไม่ดี แต่กำลังบอกว่า สาวตวจ.รุ่นใหม่ไม่ธรรมดา จะเป็นปัญหาสังคมในอนาคตหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถือเป็น สองประเด็นสังคมที่สอดแทรกลงไปในหนังอย่างกลมกลืน ซึ่งหากดูเอาความสนุกผ่อนคลายได้หัวเราะ จะได้แน่นอน และจะหาสาระบ้างก็มีให้อยู่แบบไม่ยัดเยียด

พูดถึงภาพรวมของหนังแล้ว พูดได้ว่า "คุ้มค่า" เพราะ "คาดหวัง" จากผู้กำกับฯ "ศัก สุรศักดิ์ ป้องศร" และ "โอม อวิรุทธ์ อรรคบุตร" โปรดิวเซอร์ ถือว่าเป็นคนมือใหม่ในวงการหนัง จะเอาอยู่มั้ย ก็ถือว่าเอาอยู่ เพราะดูเพลินๆ แทบไม่รู้ว่าหนังจะจบแล้ว ซึ่งคงมีภาคต่อหรือไม่ยังไง แบบไหนต้องติดตาม

สำหรับเรื่องนักแสดงนั้น ขอบอกว่า ใครคาดหวังว่าพระเอกหรือตัวเด่นฝ่ายชาย จะหล่อนั้น ไม่มีหรอกในหนัง แต่ถ้านักแสดงหญิง ทั้งนางเอก หมอปลาวาฬ และตัวเสริมคนอื่นถือว่าหน้าตาสวยมัดใจชวนติดตามอยู่

อีกเรื่องโลเกชั่น ถ้าใครเป็นคนศรีสะเกษ คงได้เห็นฉากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง งานนี้ "เฮียโต้ง" สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ผู้อำนายการสร้าง คงยิ้มออกเพราะหนังกระแสดีน่าจะไม่เข้าเนื้อ มีกำไรแน่

ว่ากันว่า หนังเรื่องนี้ที่ศรีสะเกษ โรงหนังแทบแตกคนแห่เข้าชมเยอะต้องเสริมเก้าอี้ และที่ภาคตะวันออกด้วย หนุ่มสาวชาวโรงงานแห่เข้าดูจนแน่นโรงเลยทีเดียว

ไม่ขอเล่าไปมากกว่านี้ ต้องไปดูเอง เข้าโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศแล้ว!!