MORNING CALL ACTION NOTES (22 ก.พ.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (22 ก.พ.60)

เลือกเล่นรายตัว

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงจากความไม่มั่นใจในทิศทาง Fund Flow ที่ผันผวนสูง รวมถึงแรงขายก่อนรายงานการประชุม FOMC ซึ่งคาดว่าจะชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กดดันให้ให้ SET ทรุดตัวลงแรงปิดที่ 1,564.42 จุด (-14.05 จุด) Vol. 4.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -659 ลบ. , TFEX Net -1,956 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ พุ่งขึ้นแรงจากความคาดหวังมาตรการปรับลดอัตราภาษีของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดในวันที่ 28 ก.พ. ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ

+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 54.4 US/Barrel หลังกลุ่มโอเปกมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตมากขึ้น

+ ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 56.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี

- ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐฯปรับตัวลงสู่ระดับ 54.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ราว 3.2 พันลบ. แต่แนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่าล่าสุด 35 BATH/USD.

+/- AOT ธนารักษ์สรุปเบื้องต้นเก็บค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 2 ส่วน พื้นที่กิจการบินคิดเท่าเดิม 5% แบบส่วนแบ่งรายได้ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์คิด 3% ของมูลค่าทรัพย์สิน AOT ชี้ต้นทุนเพิ่ม 300-400 ล้านบาท (ข่าวหุ้น)

** 22 ก.พ. FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.

** คาดวันประกาศงบ 22 ก.พ. BEM GFPT RS WORK 23 ก.พ. BANPU CPALL BPP

** OPP DAY 22 ก.พ. SMPC TASCO MTLS UBIS FSMART FPI 23 ก.พ. AMATA EPG FSS AMATAV

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ดีดตัวขึ้นจากความคาดหวังมาตรการลดภาษี รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell จะเป็นแรงกดดันต่อตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,555 – 1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- TTA PSL ค่าระวางเรือ +21 จุด ล่าสุด 778 จุด

- กลุ่มเหล็กคาดว่างบปี 59 จะเติบโตขึ้น รวมถึงราคาเหล็กรีดร้อนทรงตัวระดับสูงล่าสุด 612 US/Ton

- กลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโต BANPU WICE ORI BCH BEAUTY TPCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

- ANAN (ราคาปิด 5.05 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg 6.04 บาท)

• ปี 59 มีกำไรสุทธิ 1,501 ลบ. +12% และดีกว่าค่าเฉลี่ย consensus 7% โดยเปิด 8 โครงการใหม่มูลค่า 2.07 หมื่นลบ.ตามแผน สร้างยอดขาย presale 2.5 หมื่นลบ.ดีกว่าเป้า 21%

• แผนงานปี 60 เป้ารายได้ 2.5 หมื่นลบ. +58%YoY มี backlog รองรับแล้ว 1.65 หมื่นลบ.คิดเป็น 66% โดยมีโครงการที่มีกำหนดสร้างเสร็จ 10 โครงการเพิ่มขึ้นจาก 5 โครงการในปี 59 ปีนี้มีแผนเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4.3 หมื่นลบ. เป็นโครงการร่วมทุน 9 โครงการคิดเป็น 79% เป้ายอดขาย presale 3 หมื่นลบ. +21%YoY

• มีแผนพัฒนาโครงการที่สร้างรายได้ประจำ โดยโครงการแรกเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ แถวถ.รัชดาภิเษกใกล้สถานี MRT พระราม 9 มูลค่าโครงการราว 1,350 ลบ.มูลค่าเงินลงทุน 550 ลบ.คาดจะเริ่มดำเนินการได้ปี 1Q63

หุ้นมีข่าว

- BCPG ราคาปิด 12.90 Consensus เฉลี่ย 15 บาท

• รายงานกำไรปี 59 ที่ 1.54 ล้านบาทลดลง 28%YoY เนื่องจากถูกกดดันจากผลขาดทุนของค่าเงิน แต่กำไรปกติปี 59 อยู่ที่ 1.81 พันล้านบาท ลดลง16%YoY เนื่องจากผลิตไฟฟ้าลดลงตามสภาพอากาศและราคาจำหน่ายปรับตัวลงตามค่า Ft ส่งผลทำให้กำไรปรับตัวลงราว 200 ล้านบาท อีกทั้งมีการรับรู้ขาดทุนจาก Solar ญี่ปุ่น

• ปี 60 คาดผลประกอบการที่ญี่ปุ่นจะปรับตัวดีขึ้นหลังโครงการ “นากิ” จะเริ่มดำเนินงานในปลาย 1Q/60 ทำให้ที่ญี่ปุ่นมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 40 MW ซึ่งจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายสำนักงาน ใน ไทย คาดว่าค่า Ft ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหนุนต่อผลการดำเนินงานในปีนี้

• แผนการลงทุนในปี 60 คาดว่าจะมีกำลังการผลิตที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้รวม 220 MW (ไทย 182 MW ญี่ปุ่น 40 MW) อีกทั้งญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการดำเนินงานอีก 196 MW ซึ่งจะทยอยรับรู้กำลังการผลิตในปี 2018-2019 นอกจากนี้ยังขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ฟิลิปปินส์อีก 36 MW และมีโอกาสเข้าลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต

- BCP (ราคาปิด 33.50 บาท “ระวังแรงขาย” ราคาเหมาะสม 41 บาท)

• ปี 60 ตั้งเป้ากำลังการกลั่น 111 KBD เพิ่มขึ้น 10%YoY เนื่องจากไม่มีการซ่อมบำรุงโรงกลั่นเหมือนในปี 59 และคาดค่าการกลั่นทรงตัวที่ 5-7 ดอลลาร์ แต่กำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน

• ตั้งเป้าเปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันเพิ่มอีก 80 สถานีสู่ 1,155 สถานี โดยเน้นเปิดที่ภาคอีสานและตะวันออก นอกจากนี้ตั้งเป้าเปิดร้าน SPAR เพิ่มอีก 55 แห่งเป็น 62 แห่ง

• ความเห็น เรามีมุมมองลบต่อผลประกอบการปี 60 เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงจากที่ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูง นอกจากนี้ยังรับรู้กำไรจากBCPGลดลงเหลือ 70%หลังIPOทำให้กำไรลดลงราว 4-5ร้อยล้านบาท

Analyst Meeting : PF (ราคาปิด 0.92 บาท )

• แนวโน้มกำไรปี 59 น่าจะดีกว่าปี 58 ที่มีกำไร 360 ลบ. 9M59 มีกำไร 414 ลบ. +16%YoY ส่วนกำไรปี 60 มีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 ที่มีกำหนดโอนคอนโด The Hyde 2 มูลค่ารวม 4,500 ลบ. มี backlog 2,100 ลบ.

• ปี 60 ตั้งเป้ายอดขาย 18,300 ลบ.จากแผนเปิด 16 โครงการใหม่มูลค่า 2.2 หมื่นลบ. เน้นลูกค้ากลาง-บน ตั้งเป้ารายได้ 14,500 ลบ. และมีแผนขายที่ดินมูลค่าราว 2,000 ลบ. เพิ่มจากรายได้ขายที่ดิน 863 ลบ.ในปี 59 และมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมที่มีกำลังซื้อ

• มีแผนเพิ่มทุน อีก 700 ล้านหุ้นจัดสรรแบบ PP รวมหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรในปีนี้ 1,300 ล้านหุ้น เพื่อให้เป็นไปตามแผนลด net IBD/E เหลือ 1.6 เท่า ณ ปลายปี 60 จากปัจจุบัน 1.96 เท่า

• แผนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจ.ตราดที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมธนารักษ์ยังไม่มีความคืบหน้า โดยอยู่ระหว่างรอการพัฒนาสาธารณูปโภคโดยรอบพื้นที่ดังกล่าว

- SPALI (ราคาปิด 25 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 27.40 บาท) แจ้งกำไรปี 59 เท่ากับ 4,886 ลบ. +12% ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของฝ่ายวิจัย ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 60 ตามเดิมที่ราว 5,215 ล้านบาทซึ่งเติบโต 7% บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.55 บาท XD 3 มี.ค.

- รฟท.เลื่อนประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางหลังตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าจะเปิดให้เสนอราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 1 มี.ค.60 และจะลงนามสัญญาพร้อมกันทั้ง 5 เส้นทางในวันที่ 26 มี.ค.60

  ความเห็น รฟท. เลื่อนการประกาศคุณสมบัติแต่ยังคงเปิดประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางในวันที่ 1 มี.ค. ตามเดิม ซึ่งเราคาดว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ โดยเรายังเลือก CK เป็น Top Pick เนื่องจากมีรายรับที่แน่นอนจากบริษัทลูกและมี Back log เพียงพอต่อการรับรู้รายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

- JAS จ่อฟันกำไรพิเศษ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท รับข่าวดีบริษัทลูก TTTBB ขายสินทรัพย์เส้นใยแก้วนำแสง 9.8 แสนคอร์กิโลเมตรให้แก่ JASIF มูลค่า 5-7 หมื่นล้านบาท ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 27 เม.ย.นี้ พร้อมลุ้นจ่ายปันผลพิเศษในอนาคต (ข่าวหุ้น)

- SPVI จ่อเซ็นสัญญาขาย iPad ให้โรงเรียนอัสสัมชัญพระราม 2 จำนวน 182 เครื่อง มูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท เดินหน้ารุกการศึกษาหนัก ปักธงอัพสัดส่วนรายได้เป็น 20% ใน 3-5 ปี ปักธงรายได้ปีนี้โตเกิน 5% เดินหน้าเปิดศูนย์ซ่อม 2-3 สาขา (ทันหุ้น)

- TSE จับมือ STEC คว้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นพร้อม PPA ขนาด 154.98 เมกะวัตต์ มูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้านบาท ผ่านบริษัทร่วมทุน พร้อมตั้ง IFA รอเข้า AGM เม.ย.นี้

- NMG ก.ล.ต.ยกเลิกประกาศกล่าวโทษกรรมการ 8 คนมีผลตั้งแต่ 16 ก.พ.60 ซึ่งผู้บริหารจะกลับเข้ามาบริหารบริษัทดังเดิม

- RATCH ลงขัน 2.8 พันลบ.ตั้งบริษัทร่วมทุนรับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลือง

- ประเด็นบวกกลุ่มทีวีดิจิตอล - กสทช.เร่งทีวีดิจิตอลนำเอกสารค่า Must Carry ขอรับเงินคืนได้มีผลย้อนหลัง 20 ธ.ค.59

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +118.95 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,743.00 จุด พุ่งขึ้น 118.95 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,865.95 จุด เพิ่มขึ้น 27.37 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,365.38 จุด เพิ่มขึ้น 14.22 จุด หรือ +0.60% เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอล-มาร์ทและเมซี่ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า มาตรการปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายผู้บริโภค

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.66 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 54.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ส่งสัญญาณให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตมากขึ้น