Daily Market Outlook (21 ก.พ.60)

Daily Market Outlook (21 ก.พ.60)

เลือกตั้งฝรั่งเศสกลายเป็นจุดสนใจ ไม่มีชี้นำจากตลาดหุ้นสหรัฐ

คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับหุ้นในภูมิภาควันนี้ โดยไม่มีการชี้นำจากสหรัฐเนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐต่างปิดทำการเนื่องในวันหยุดราชการเมื่อวาน นักลงทุนยังคงเฝ้ารอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Trump เป็นหลักใหญ่ ในขณะที่ต่างจับตาการเลือกตั้งฝรั่งเศสโดยเฉพาะหลักผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมารีน เลอแปงที่มีนโยบายนำฝรั่งเศสออกจาก EU ตีตื้นคู่แข่งเข้ามามาก วันนี้ไม่ค่อยมีข่าวในประเทศที่สำคัญหลังจากสภาพัฒน์รายงานเศรษฐกิจไทยชะลอตัวในไตรมาส 4/59 แต่มีมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นในปี 60

หุ้นเด่นวันนี้: ADVANC (ราคาปิด 170 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 188 บาท)

เราเลือก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสเป็นหุ้นเด่นวันนี้เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทเป็นผู้นำในกลุ่มโทรคมนาคมโดยเฉพาะในแง่จำนวนเลขหมายมือถือและต้นทุนการกำกับดูแลที่ต่ำกว่าซึ่งช่วงให้คงความเป็นผู้นำได้ต่อไป ด้วยฐานลูกค้าที่ใหญ่ทำให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์นี้ด้วยการเพิ่มการบริการใหม่ได้ ธุรกิจบรอดแบนด์จะเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตของบริษัทซึ่งบริษัทสามารถเพิ่มบริการเสริมที่จะส่งเสริมรายได้สม่ำเสมอเช่นการถ่ายทอดช่องรายการ ADVANC เซ็นเป็นพันธมิตรกับ HBO ได้สิทธิพิเศษในการถ่ายทอดเนื้อหาทั้งหมดของ 6 ช่อง HBO นอกจากนี้ฟากลูกค้ามือถือก็ยังจะได้ดู HBO Go เนื้อหาที่สามารถเลือกดูตามที่เลือก (on-demand) ผ่านมือถือของตนเอง บริษัทก็ยังเซ็นเป็นพันธมิตรกับ FOX network และ NBA ซึ่งรายการยอดนิยมเหล่านี้น่าจะช่วยหนุนการใช้งานและรายได้ทั้งธุรกิจบรอดแบนด์ตามสายทั้งบริการมือถือ และทำให้เกิดการใช้ร่วมกันระหว่างทั้งสองบริการ (convergence) ตัวเลขที่ออกมาแล้วก็ชี้ว่าธุรกิจ FBB หรือ AIS Fibreก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากรายได้แค่ 1 ลบ. ในไตรมาส 4/57 เป็น 65 ลบ. ในไตรมาส 4/58 และ 232 ลบ. ไตรมาส 3/59 เราเชื่อว่า FBB จะมีสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในไม่ช้า ส่วนรายได้จากบริการข้อมูลก็เติบโตถึงสองหลักมาเป็นปีๆ เพราะความนิยมในเครือข่ายสังคมออนไลน์และการรับชมวีดิโอในประเทศไทย การที่บริษัทมีมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดน่าจะทำให้ ADVANC สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากการเติบโตของการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตได้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เราคาดว่ากำไรอาจร่วงไปก่อน 13% ปี 60 เพราะค่าใบอนุญาตที่พึ่งเข้ามา แต่น่าจะกลับมาพุ่ง 23% ในปี 61 เพราะรายได้เร่งขึ้นมาครอบคลุม ราคาล่าสุดยังคงให้อัพไซด์อยู่ราว 10% เทียบเป้าหมายราคาปี 60 ของเรา และคาดปันผลตอบแทนที่ยังน่าสนใจที่ 3.8%

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• GDP เติบโตช้าลงในไตรมาส 4/59 ตามคาด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) วานนี้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4/59 ของประเทศไทยเติบโต 3% ลดลงจาก 3.2% ในไตรมาส 3/59 เป็นเพราะการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ อย่างไรก็ดีมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของภาคส่งออกและการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะเดียวกันการเติบโตทั้งปี 59 อยู่ที่ 3.2% สศช. คงการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยไว้ที่ 3-4% ปีนี้ และมีเป้าการส่งออกเติบโต 2.9% (Bangkok Post) ความเห็น: เราคงการคาดการณ์เศรษฐกิจปี 60 ไว้ที่ 3.5%

• PTTGC(69.75 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 80.00 บ.) ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวด 2H59 ในอัตรา 1.80 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีที่ 2.6% (5.2% เทียบรายปี) โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 มี.ค. เงินปันผลต่อหุ้นรวมสำหรับผลการดำเนินงานปี 2559 อยู่ที่ 2.85 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 4.1%(SET)ความเห็น: เงินปันผลจ่ายทั้งปี 2559 น้อยกว่าที่เราคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.00 บาท/หุ้น เนื่องจากมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงโรงงานครั้งใหญ่ในช่วง 1H59 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานและการจ่ายปันผลกลับมาเป็นปกติในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยกำไรที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้และปีหน้าภายใต้การเดินเครื่องผลิตอย่างเต็มกำลัง เรามองว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับราว 5.0% ต่อปี

ต่างประเทศ:

• เงินยูโรแข็งค่าจากสัญญาณว่านางมารี เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝ่ายขวาจัดได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากการรวมตัวกันของพรรรคฝ่ายซ้ายจัดยังไม่มีความคืบหน้า เงินยูโรปรับตัวขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนเนื่องจากเมื่อวานนักลงทุนสหรัฐหยุดทำการซื้อขายเนื่องในวันประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม เงินยูโรปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปรับตัวขึ้น 0.1% อยู่ที่ 1.0616 ดอลลาร์สหรัฐ และปรับตัวขึ้น 0.3% อยู่ที่ 120.06 เยน (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาเนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งความคืบหน้าทางการเมืองในฝรั่งเศส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นอายุ 30 ปีปรับตัวขึ้น 0.5 bps อยู่ที่ระดับ 0.920% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.พ. ปีก่อน เนื่องจากพันธบัตรดังกล่าวได้รับปัจจัยกดดันจากมุมมองที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังยอมรับการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ ส่วนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอื่น ๆ มีทั้งการปรับตัวขึ้นและลดลง เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการซื้อขายในสหรัฐเมื่อวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 0.5 bps อยู่ที่ระดับ 0.090% (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการเมื่อวันจันทร์ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้นนำโดยหุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หุ้น Unilever ปรับตัวลดลงหลังบริษัท Kraft Heinz ปฏิเสธดีลการ Takeover มูลค่า 1.43 แสนล้านดอลลาร์ฯ (Reuters)

• ความไร้เอกภาพในพรรคฝ่ายซ้ายฝรั่งเศส โดย Benoit Hamonแห่งพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสและJean-Luc Melanchonแห่งพรรคฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งได้มีการหารือในความร่วมมือในการเลือกตั้งปธน. ฝรั่งเศส ที่อาจนำไปสู่การสนับสนุนMarine Le Pen ผู้สมัครจากพรรคขวาจัดซึ่งมีจุดยืนการกีดกันทางการค้าโลกและอียูให้เป็นปธน.ฝรั่งเศส ทั้งนี้ Le Pen มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา (Reuters)

เอเชีย:

• หุ้นบลูชิพของจีนปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบหกเดือนในวันจันทร์หลังจากที่สื่อรายงานว่าเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญอาจจะเริ่มไหลเข้ามาในตลาดหุ้นของประเทศจีนในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากกฎระเบียบใหม่ที่ออกโดยหน่วยงานกำกับดูแลฯ ข่วงท้ายของวันศุกร์ที่จะจำกัดการระดมทุนที่ "มากเกินไป" และ "บ่อย" ของบริษัทจดทะเบียน สื่อรายงานเมื่อวันศุกร์ว่าจีนได้เริ่มต้นการลงทุนที่ 360พันล้านหยวน (52.41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในกองทุนประกันเงินบำนาญ ในตลาดการเงินของมณฑลและเมือง 7แห่ง (Reuters)

• Geelyจะเสนอราคาเข้าซื้อโปรตอนซาก้า: ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนZhejiang Geely Holding Group Co (จ้อเจียง จีลี่) คาดว่าจะเสนอราคาต้นสัปดาห์นี้สำหรับเข้าเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับบริษัทผลิตรถยนต์โปรตอน โฮลดิ้ง ของมาเลเซีย ที่กำลังเผชิญปัญหาขณะนี้Geelyเป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่ของสวีเดน กำลังเจรจากับเจ้าของโปรตอน มาเลเซียและคาดว่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุด ที่พัฒนาร่วมกับวอลโว่ให้ด้วย (Reuters)

• สหภาพยุโรปจะสรุปข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศญี่ปุ่นในปีนี้หลังจากล้มเหลวที่จะทำให้สำเร็จก่อนถึงเส้นตายในช่วงสิ้นปี 2559 ข้อตกลงการค้าระหว่างสองฝ่ายได้ดำเนินการเพิ่มความสำคัญขึ้นอีก หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ Donald Trump ถอดถอนแผน Trans-Pacific Partnership (TPP) ขณะที่สหภาพยุโรปเกินหน้าสหรัฐอเมริกาในการเป็นหุ้นส่วนการค้ากับญี่ปุ่นไปแล้ว ปัญหาสำคัญคือการรักษาความสมดุลของความต้องการของยุโรปที่จะขายอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นและได้เข้าถึงการประมูลของประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ต้องการการเข้าถึงสินค้าปลอดภาษีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์(Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบบวกวันจันทร์ เพราะนักลงทุนมองบวกว่าผู้ผลิตน่าจะลดกำลังผลิตได้ผลและเก็งว่าน้ำมันจะวิ่งขึ้น แม้ผลผลิตของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นและสต็อกจะยังมีจำนวนมากอย่างไม่ยอมลด ทำให้จำกัดขาขึ้น น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้า บวก 37 เซนต์ปิด 56.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐบวก 29เซนต์ (0.5%) ปิด 53.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำยืนได้วันจันทร์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าแม้จะซื้อขายเบาบางเพราะเป็นวันหยุดของสหรัฐและตลาดรอรายละเอียดนโยบายภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.2% ที่ 1,238 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย. ลบเล็กน้อย ปิด 1,238.50 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)