ศึก 'ธรรมกาย' ใครเสี่ยงแพ้ และตัวแปร 'มือที่สาม' !?

ใครจะเพลี่ยงพล้ำ? คือคำถามที่ "คอการเมือง" ประเมินดูเชิง ระหว่างการเผชิญหน้าของ "จนท.รัฐ" กับ "พระและศิษย์วัดธรรมกาย" ที่ดูเหมือนสถานการณ์พัฒนาเป็นการ "ปะทะ" จนมีคนล้มเจ็บเมื่อวานนี้ (20ก.พ.)

ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะมีการปะทะทำร้ายรุนแรงขึ้นหรือไม่ ซึ่งหมากกระดานนี้ ใครเริ่ม "ใช้ความรุนแรง" ก่อน อาจเสี่ยงแพ้หรือเพลี่ยงพล้ำได้

ทว่า ตัวแปรสำคัญ คือ "มือที่สาม" หรือ "มือมืด" ที่อำพรางตัวปิดหน้าปิดตาอาจผสมโรงได้ อย่างที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร ออกมาประกาศสำนักสื่อสารองค์กร 21 ก.พ. 2560 เวลา 9.00 น. เนื่องจากมีการเตือนมาจากพี่น้องสื่อมวลชนและโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า จะมีการแทรกตัวของมือที่สาม

"อาจจะมาในรูปแบบแต่งกายคล้ายพระหรือประชาชน มาทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วป้ายความผิดให้กับพระและสาธุชนภายในวัด"

ขณะที่ พระพุทธะอิสระ ได้โพสต์เฟซบุ๊ควานนี้ (20ก.พ.) ระบุว่า การชักแถวเดินตบเท้ากดดันขับไล่เจ้าหน้าที่ เลยเป็นเหตุให้มีการปะทะผลักดันกันเป็นระยะๆ เรียกได้ว่า เข้าแผนจีวรเปื้อนเลือดได้วางไว้หรือไม่

"หากฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังรุกไล่ ก็จะใช้แผน 2 คือ นำผู้หญิง เด็ก คนชรา ออกมาเผชิญหน้าและยั่วยุให้ปะทะ ตามด้วยแผน 3 คือกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่รอคอยจังหวะออกมาแสดงบทโหดเพื่อให้เกิดภาพเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชนเผยแพร่ออกไปทั่วโลก และตามด้วยการขอลี้ภัย"

นี่เป็นการประเมินของพระที่เคยเป็น "แกนนำ" ชุมนุมยืดเยื้อมาแล้ว

ขณะเดียวกัน ฝ่ายจนท.ก็รู้ว่า ยุทธการล้อมค้นวัดพระธรรมกายหนนี้ เหมือนเป็น "สงครามโซเชียลมีเดีย" ใครมีภาพ,คลิป หรือ LIVE สด ให้เห็นความรุนแรงที่อีกฝ่ายกระทำผ่านสื่อได้ นั่นเท่ากับย่อมคุมเกมได้

งานนี้ "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ย้ำชัด (20ก.พ.) "เรื่องกระทบกระทั่ง ผมเชื่อว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเป็นผู้แพ้..ไม่มีพระที่ไหนใส่หน้ากาก เวลาบิณฑบาทตอนเช้าก็ไม่เคยเห็น มีแต่ที่วัดพระธรรมกายที่เดียวเท่านั้น"

เช่นเดียวกันกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายเข้าตรวจเยี่ยมกำลังพลภายในวัดพระธรรมกาย ถึงการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า ดีเอสไอไม่มีการพกพาอาวุธหรือของมีคมเพื่อลดการปะทะ

"ปฏิบัติการที่เหมาะสม ละมุนละม่อม ไม่มีการใช้ความรุนแรง ตามที่ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่หญิงของดีเอสไอถูกทำร้ายขณะปฏิบัติงานก็ไม่มีการตอบโต้กลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเอสไอตระหนักและให้ความระมัดระวังเป็นสิ่งแรก สิ่งที่ดีเอสไอได้สื่อสารออกไปเพียงแค่ต้องการขอคืนพื้นที่สำหรับปฏิบัติการตรวจค้น และไม่ต้องการให้เกิดเหตุยืดเยื้อ"

นี่เอง สะท้อนให้เห็นชัดว่า ทุกฝ่ายต่าง "รู้เกม" ว่าใครเริ่มตีปะทะก่อน อาจชนะศึก ได้ใจมวลชนในพื้นที่ แต่อาจแพ้สงคราม เมื่อคนทั้งประเทศ และคนทั่วโลก ได้เห็นว่าใครที่ "ถูกกระทำ" ?

ดังนั้น การที่มีการปล่อยข่าวเรื่องมือที่สาม จะก่อเหตุป่วน ซึ่งจะจริงหรือลวงก็ตาม แต่อย่างที่ทราบ "มือที่สาม" จะช่วยเปิดเกมปะทะเพื่อนำไปสู่การพลิกสถานการณ์อื่นๆ หรือไม่

จับตา "ศึกม็อบธรรมกาย" จะยืดเยื้อหรือปิดเกมเร็ว มีตัวแปรคือ "มือที่สาม" จะเป็นตัวปั่นเกมนั่นเอง!!