'สามารถ'เปรียบเทียบBRTสหรัฐ คนใช้น้อยแต่ยังวิ่ง

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์” รถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) มีใช้ในหลายประเทศทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกา ยุโรป และแอฟริกา โดยตนขอพูดถึงบีอาร์ทีในอเมริกา โดยเปรียบเทียบกับในกรุงเทพฯเพื่อชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้บีอาร์ทีในหลายเมืองของอเมริกามีผู้โดยสารน้อยกว่าบีอาร์ทีของเรา แต่เขาก็ไม่ยกเลิกการให้บริการ ซึ่งบีอาร์ทีในอเมริกาที่นำมาเปรียบเทียบประกอบด้วยบีอาร์ทีในลอสแอนเจลิส พิตต์สเบิร์ก ลาสเวกัส และคลีฟแลนด์ โดยมีข้อมูลปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน ค่าก่อสร้างเฉลี่ยต่อกิโลเมตร และจำนวนปีที่เปิดให้บริการ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลผลการประกอบการ ข้อมูลเหล่านี้มีที่มาจากรายงานชื่อ “More Development for Your Transit Dollar” โดย Walter Hook และคณะ ซึ่งเป็นรายงานที่เขียนขึ้นในปี พ.ศ.2558 อนึ่ง ค่าก่อสร้างต่อกิโลเมตรนั้น ได้รวมค่าจัดซื้อรถและระบบตั๋วไว้ด้วยแล้ว

นายสามารถ ระบุอีกว่า ตนขอกล่าวถึงบีอาร์ทีแต่ละเมืองในอเมริกา เรียงลำดับตามจำนวนผู้โดยดังนี้ เริ่มด้วยบีอาร์ทีในลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นสายสีส้ม เปิดให้บริการมา 12 ปี แล้ว มีผู้โดยสารเฉลี่ย 33,000 คนต่อวัน และใช้ค่าก่อสร้างเฉลี่ย 470 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ตามด้วยบีอาร์ทีสายตะวันออกในพิตต์สเบิร์ก เปิดใช้มานานถึง 34 ปี แล้ว มีผู้โดยสารเฉลี่ย 24,000 คนต่อวัน และเงินลงทุนก่อสร้างเฉลี่ย 560 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ถัดมาเป็นบีอาร์ทีในลาสเวกัส ซึ่งเปิดให้บริการมาเป็นเวลา 7 ปี แล้ว มีผู้โดยสารเฉลี่ย 16,789 คนต่อวัน และใช้เงินก่อสร้างเฉลี่ย 190 ล้านบาทต่อกิโลเมตร

ส่วนบีอาร์ทีที่คลีฟแลนด์นั้น เปิดใช้งานมา 9 ปี แล้ว มีผู้โดยสารเฉลี่ย 15,800 คนต่อวัน และค่าก่อสร้างเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ท้ายสุด กลับมาดูบีอาร์ทีที่พิตต์สเบิร์กอีกครั้ง ซึ่งเป็นบีอาร์ทีสายใต้ เปิดให้บริการมานานมากถึง 40 ปี แล้ว มีผู้โดยสารเฉลี่ย 9,262 คนต่อวัน และใช้ค่าก่อสร้างเฉลี่ย 370 ล้านบาทต่อกิโลเมตรหากเปรียบเทียบบีอาร์ทีในอเมริกา กับในกรุงเทพฯ จะเห็นได้ว่าของเราเปิดใช้งานมาน้อยกว่าในทุกเมือง อีกทั้งใช้เงินลงทุนน้อยกว่าด้วย ในขณะที่บีอาร์ทีของเรามีผู้โดยสารมากกว่าบีอาร์ทีในลาสเวกัส คลีฟแลนด์ พิตต์สเบิร์ก (สายใต้) และมีผู้โดยสารใกล้เคียงกับบีอาร์ทีสายตะวันออกในพิตต์สเบิร์ก มีเพียงเมืองเดียวเท่านั้นที่บีอาร์ทีของเรามีผู้โดยสารน้อยกว่า นั่นคือลอสแอนเจลิส ซึ่งหากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่คิดจะยกเลิก แล้วมุ่งมั่นปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการอย่างจริงจัง ผมมั่นใจว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น และจะลดการขาดทุนลงได้แน่นอน

ทั้งนี้ทราบมาว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สอบถามมายังกทม.ด้วยวาจาว่า ยกเลิกบีอาร์ทีเพราะเหตุใด ขอให้กทม.ทำหนังสือชี้แจงสตง.ด้วย ที่สำคัญ ตนได้รับข้อมูลมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ว่ากทม.กำลังจะว่าจ้างสถาบันการศึกษาให้ทำการสำรวจความคิดเห็นหรือโพลล์ของประชาชนที่มีส่วนได้เสียกับบีอาร์ที โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,000 ราย เพื่อนำผลโพลล์รายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่กทม.ได้ประกาศยกเลิกบีอาร์ทีก่อนที่จะทำโพลล์ และยังยืนยันอย่างแข็งขันว่าจะไม่ทบทวนการตัดสินใจหรือจะไม่เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน จะอย่างไรก็ตาม กทม.จะยกเลิกบีอาร์ทีให้ได้ แต่อาจเป็นเพราะถูกสั่งให้ทบทวน จึงต้องรีบทำโพลล์อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ผลโพลล์และข้อมูลเปรียบเทียบบีอาร์ทีในเมืองดังกล่าวข้างต้น คงทำให้กทม. สามารถทำรายงานเสนอต่อท่านนายกฯ ซึ่งจะเป็นรายงานที่สนับสนุนคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้ระบุไว้เมื่อ 16 ก.พ. ว่า ยังไม่มีการยกเลิกบีอาร์ที ถึงเวลานี้ ผู้โดยสารบีอาร์ทีคงเตรียมเฮได้แล้ว