SF - ซื้อ

SF - ซื้อ

Recurring growth at attractive valuation

ประเด็นการลงทุน

เรามองว่าบริษัทยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว แม้ระยะสั้นการเติบโตของกำไรอาจดูไม่ตื่นเต้นนัก โดยเราคาดกำไรจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปราว 10% เป็น 965 ล้านบาท ในปี 2017 นี้ เพราะบริษัทยังไม่มีโครงการใหม่เปิดดำ เนินการในปีนี้ แต่ในปีหน้าบริษัทจะมีศูนย์การค้าเปิดคำเนินการเพิ่มถึง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทุ่งมหาเมฆ
เฟส 2 และ โครงการ MEGA Bangna เฟส ต่อขยาย (ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ) คาดหนุนให้กำไรจะกลับมาเติบโตแบบน่าตื่นเต้นอีกครั้ง สำหรับภาพระยะสั้นคาดราคาหุ้นจะสามารถยืนได้ และมีความเสี่ยงด้านล่างจำกัด เพราะ P/E ที่ถูกเพียง 12.2 เท่า ถูกกว่า P/E ค่าเฉลี่ยของตลาดฯ และบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตรา
ผลตอบแทนราว 3% เทียบเท่าตลาด เราคงคำแนะนำ ซื้อ

สรุปผลประกอบการปี 4Q16 และปี 2016 …

บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 192 ล้านบาท ลดลง 21%QoQ เพราะมีการบันทึกการปรับลดมูลค่ายุติธรรมอสังหาฯเข้ามาราว 60 ล้านบาท และ ลดลง YoY เพราะปีที่แล้วมีกำไรจากการปรับมูลค่าฯ หากไม่รวมรายการ ดังกล่าว กำไรหลักอยู่ที่ 232 ล้านบาทยังคงเติบโตได้ดี 7%YoY และ 11%QoQ ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยเพราะรายได้ที่ 323 ล้านบาท ลดลงราว
7%YoY และ 7%QoQ

ภาพรวมปี 2016 บริษัทมีกำไรหลักที่ 881 ล้านบาท เติบโตราว 6%YoY โดยกำไรสุทธิรายงานที่ 964 ล้านบาท ลดลง YoY เพราะปีที่แล้วมีกำไรจากการปรับมูลค่าฯครั้งใหญ่ โดยบริษัทมีรายได้ค่าเช่าฯที่ 1,369 ล้านบาท ทรงตัว YoY และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเป็น 61.3% จาก 60.3% เพราะการควบคุมต้นทุน บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรหลักจากกิจการร่วมค้า (หลักๆคือ MEGA Bangna) ที่ 432 ล้านบาท เติบโต 14%YoY

… คาดกำไรปี 2017 เติบโตแบบ Organic growth

คาดกำไรหลักในปี 2017 จะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปราว 10% เป็น 965 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนผลประกอบการปีนี้คาดมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นราว 5% ตามการปรับค่าเช่าตามสัญญาปกติ และคาดส่วนแบ่งกำไรหลักจากกิจการร่วมค้า (หลักๆคือ MEGA Bangna) ที่ 465 ล้านบาท เติบโต 8%YoY ตามการขึ้นค่าเช่าปกติราว 5%/ปี เช่นกัน ในปีนี้บริษัทยังไม่มีโครงการใหม่เปิดดำเนินการ เราจึงมองว่ากำไรจะปรับตัวขึ้นตามค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้น สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นเรายังคงใช้สมมติฐานเชิงอนุรักษ์นิยมคาดเท่ากับปีนี้ แต่โดยปกติแล้วอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวสูงขึ้นตามการปรับขึ้นค่าเช่าด้วย

คาดมาร์จิ้นดีขึ้นจากการรีโนเวทโครงการ

คาดอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสขยายตัวดีกว่าที่เราคาดจากการที่บริษัทปรับปรุงพื้นที่เช่าโครงการเพชรเกษมกว่า 20,000 ตร.ม. โดยการรีโนเวท 3 พื้นที่เช่นใหญ่ เสร็จสิ้นไปแล้วในปีที่ผ่านมาได้แก่ การได้ Makro food service เข้ามาในพื้นที่ราว 10,000 ตร.ม. และ JJ One เข้ามา 5,000 ตร.ม. และร้านค้าทดแทนพื้นที่โบวลิ่ง ราว 2,000 ตร.ม. สำหรับพื้นที่อีกประมาณ 4,000 ตร.ม. บริเวณ อินเด็กซ์ ชั้น 2 เดิม บริษัทจะทำการเปลี่ยนให้เป้นพื้นที่เช่าร้านค้า คาดจะได้ผู้เช่าใหม่ที่จะหนุนทั้งค่าเช่าและเป็นตัวดึงลูกค้าเข้ามาในโครงการเพิ่มขึ้นภายใน 1H17 นี้