'ประยุทธ์' ชี้การเมืองมีเสถียรภาพ ทำเศรษฐกิจมั่นคง

'ประยุทธ์' ชี้การเมืองมีเสถียรภาพ ทำเศรษฐกิจมั่นคง

นายกฯประยุทธ์ ชี้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ ทำเศรษฐกิจมั่นคง หวังดันไทยศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายในงาน opportunity thailand สร้างโอกาสแห่งอนาคตของไทยและภูมิภาค โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า โอกาสมีทุกวัน เพียงแต่จะใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและโลกได้อย่างไร วันนี้ได้พบกับนักลงทุนชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก แต่ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ดังนั้นความมั่นคงด้าน เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสถียรภาพ มั่นคง และมีแผนระยะยาวในการบริหารประทเศผ่านแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ขณะนี้ทุกประเทศต้องคิดกลยุทธ์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อรักษาระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไทยก็เช่นกันได้ปรับตัว เปลี่ยนแปลง รับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับประเทศ ต้องพิจารณาว่าพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และอนาคประเทศ 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร โดยไทยมีการเปลี่ยนแปลงโมเดลทางเศรษฐกิจหลายครั้ง จนก้าวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะทำให้พ้นกับดักรายได้ประเทศปานกลาง ปฏิรูประบบเศรษฐกิจทั้งระบบ ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้มากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

“สิ่งสำคัญวันนี้จำเป็นต้องเอาศาสตร์พระราชามาดำเนินการต่อ รักษาสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่เน้นเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงความสุขของคนทั้งประเทศไปด้วย ซึ่งการพัฒนาอย่างประเทศตะวันออกจะช้ากว่าที่อื่น แต่จะเป็นไปอย่างยั่งยืน และหากจะมองว่าจะก้าวข้ามพ้นกับดักต่าง ๆ ได้อย่างไร จำเป็นต้องมีการปฏิรูปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ด้านเศรษฐกิจ แต่ต้องปฏิรูปสังคมการ การศึกษา กฎหมาย ความมั่นนคงของประเทศไทย และรักษาฐานทรัพยากรของรประเทศที่มีอยู่จำกัด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียน ที่มีความพร้อมและศักยภาพสูงพอที่จะเข้ามาเป็นแกนกลางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ก็จะพยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าเศรษฐกิจ โดยไม่ทิ้งใครไว้อยู่ข้างหลัง ถึงแม้ว่าไทยจะมีทรัพยากรที่สมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีแรงดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ส่วนตัวคิดว่าจะใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ หรือจะพึ่งการผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องมีการคิดใหม่ เปลี่ยนแปลง ปฏิรูป ว่าจะทำอย่างไรให้สิ่งที่ประเทศไทยมีอยู่ มีมูลค่าสูงขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เราต้องการขับเคลื่อนประเทศ คือการส่งเสริมอุตสาหกรรม 4 ประเภท เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่/หุ่นยนต์/การเกษตร/เทคโนโลยีชีวภาพ โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ นอกจากนั้นนก็จำเป็นต้องส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่เป็นอนาคต เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีการใช้ปรัชญาในการประกอบการ เป็นสิ่งสำคัญในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ

“หวังว่าทุกคนจะร่วมมือกัน เดินทางในทิศทางเดียวกัน จูงมือไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยกระดับกันทั้งประเทศ ทั้งอาเซียนให้ได้ เพราะเราเป็นประชาคมอาเซียน และเป็นมิตรกับประชาคมอื่น ๆ ไม่ว่าจำเป็นยุโรปหรือตะวันตก เราต้องช่วยกันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง และมีส่วนแบ่งที่เป็นธรรมกับทุกคน นี่เป็นหลักการที่ต้องดำเนินการไปพร้อมกันทั้งโลก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนอดทนกับระยะเวลาที่เรากำลังพัฒนาตรงนี้ให้ได้ ไม่มีประเทศใดที่จะพัฒนาได้ในวันเดียว เหมือนกับกรุงโรม ถ้าสร้างเร็ววันเดียวก็พังง่ายเหมือนปราสาททราย ประเทศเราสร้างมา 70 ปีภายใต้พระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ต้องทำต่อในรัชกาลที่ 10 ยืนยันว่า กลุ่มอีอีซี จะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน อยากให้ทุกคนร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทย ให้เห็นถึงอนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้า รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ว่า พื้นที่อีอีซี จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดีที่สุดในภูมิภาคในอนาคต เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ใช้มาตรา 44 แต่งตั้งผู้บริหารขึ้นมา เพื่อเดินหน้ากำหนดนโยบายไปพลางก่อน ในระหว่างที่รอกฎหมายฉบับใหม่ประกาศใช้ใน สนช.

“การทำงานของรัฐบาลยืนยันว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะเดินหน้าทำงานสร้างความโปร่งใสเป็นธรรม ทุจริตจะต้องไม่มีที่ยืนทั้งในระบบราชการหรือพื้นที่ต่าง ๆ ต้องไม่มีทุจริต ทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องถูกดำเนินคดี แต่หลายเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ก็พยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขอให้รักษาสถาบันเหล่านี้ต่อไป นี่คือการปรองดอง ขอให้เกิดความร่วมมือกันต่อไปในหลายด้าน ส่วนตัวไม่มีปัญหาอยู่แล้ว วันนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการ ป.ย.ป. ขึ้นมาสร้างความจริง รูปธรรมให้เกิดขึ้น วันนี้อย่าถามกันเรื่องเดียวเรื่องปรองดอง แต่มีเรื่องสังคม เศรษฐกิจที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย ทั้งหมดต้องทำให้เกิดความชัดเจน คณะกรรมการ 4 ด้านต้องเร่งทำงานทุกอย่าง ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้านรับผิดชอบไปแล้ว สิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง คือ แนวทางประชารัฐต้องช่วยกัน เพราะเป็นหัวใจที่นำไปสู่ความสำเร็จทุกด้าน เราจะก้าวไปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ