เปิดโรงแรมฮาลาลหนุนฮับท่องเที่ยวมุสลิม

เปิดโรงแรมฮาลาลหนุนฮับท่องเที่ยวมุสลิม

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจ “อัล มีรอซ” ฮาลาลโฮเต็ลแห่งแรกของไทย เสริมศักยภาพตลาดท่องเที่ยวมุสลิม

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าการเปิดตัว “อัล มีรอซ” (Al Meroz) ฮาลาลโฮเต็ลแห่งแรกของไทย จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมุสลิมจากทั่วโลก ส่งเสริมยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวไทย ด้วยศักยภาพโรงแรมฮาลาลมาตรฐานระดับสากล

รัฐบาลมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการฮาลาลในภูมิภาคอาเซียนและของโลก โดยนำเสนอสินค้าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมให้ไทยเป็น Muslim Friendly Destination ล่าสุดเปิด mobile app บริการข้อมูลสำคัญและสินค้าฮาลาลต่างๆ

“วันนี้เรามีบริการโรงแรม อัล มีรอซ ฮาลาลที่ได้มาตรฐานโลก เจ้าของเป็นคนไทย-มุสลิม จึงมั่นใจในศักยภาพโรงแรมฮาลาลว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมุสลิมอย่างเต็มที่”

ทั้งนักท่องเที่ยวมุสลิมเชิงสุขภาพ เชิงกีฬา คู่แต่งงาน ท่องเที่ยวทางน้ำ ฯลฯ การท่องเที่ยวไม่ได้ ทำเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ แต่อยากย้ำว่าจะต้องมีความเป็นมิตรกับผู้มาเยือน การมีโรงแรมฮาลาล ก็ทำให้นักท่องเที่ยวมุสลิมมีความสุข ความมั่นใจ พักผ่อนและทำละหมาดในกรอบของศาสนา

อีกอย่างนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ช่วยทำให้การท่องเที่ยวไทยมีความต่อเนื่อง เพราะเข้ามาจำนวนมากในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซันของไทย นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพมีการใช้จ่ายสูงและเข้าพักยาว ส่วนแนวทางการสนับสนุนจากภาครัฐ จะเป็นด้านการโปรโมทและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะช่องทางโซเชียล มีเดีย และส่งเสริมตลาดประชุมสัมมนา โดยเฉพาะกลุ่มนักกีฬา ที่ต้องการเข้าพักและเก็บตัว เพราะตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี ไม่มีสิ่งมึนเมาทุกชนิดในโรงแรม

นายรอศักดิ์ มูลทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมอัล มีรอซ กล่าวว่าโรงแรมอัล มีรอซ เป็นโรงแรมฮาลาล 4 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันตามมาตรฐานโรงแรมฮาลาล มีห้องพัก 242 ห้อง ห้องอาหาร ห้องประชุมจัดเลี้ยง ฯลฯ เป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นจากความฝัน ที่จะโชว์โลกให้รับรู้ถึงวัฒนธรรมแห่งความเป็นมุสลิมที่งดงาม คำว่า “Meroz” แปลว่ามรดกในภาษาอาหรับ ซึ่งไม่ใช่เพียงมรดกตกทอดของครอบครัว แต่ตั้งใจให้ อัล มีรอซ เป็นตัวแทนแห่งมรดก เป็นความภาคภูมิใจของมุสลิมทั่วโลก สะท้อนถึงความเป็นพี่เป็นน้อง ผ่านฮาลาลโฮเต็ล ที่เดินตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย หรูหรา และมีระดับ พร้อมสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนทั้งมุสลิมและต่างศาสนิก โดยที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มาจาก มาเลเซีย อินโดนีเซียและประเทศในตะวันออกกลาง ปีนี้ตั้งเป้าอัตราเข้าพัก 82%