ํธุรกิจโรงพยาบาลแห่เข้าระดมทุนผ่านตลาดรองรับสังคมสูงวัย

ช่วง 4ปีที่ผ่านมา พบว่าธุรกิจโรงพยาบาลเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 4 บริษัท ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ระดมทุน 1,386 ล้านบาท โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) ระดมทุน 1,000 ล้านบาท โรงพยาบาลราชธานี (RJH) ระดมทุน 1,199.99 ล้านบาท เอกชัย การแพทย์ (EKH) ระดมทุน 508.74 ล้านบาท โดยทั้ง 4 บริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนใหม่นี้ ช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ให้กับตลาดราว 51,000 ล้านบาท

ส่วนโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียน โดยยื่นไฟลิ่งให้กับ ก.ล.ต. แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ (RPH) ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG)

นายชาตรี ดวงเนตร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) BDMS กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจดูแลสุขภาพจะเติบโตและได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ปัจจุบันฐานรายได้ของบริษัทราว 1 ใน 3 มาจากต่างประเทศ

“สถานการณ์ของธุรกิจเฮลท์แคร์ในไทยน่าจะเป็นปีที่ดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และสังคมผู้สูงอายุในไทยเพิ่มขึ้นมาก แต่งานที่ดูแลในด้านนี้ยังไม่มาก และบริษัทประกันด้านสุขภาพเริ่มพัฒนาและแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกันโรงพยาบาลก็ต้องเพิ่มศักยภาพของตัวเอง ทั้งในส่วนของการดูแลก่อนป่วย และหลังป่วย ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งจะหันมาระดมทุนผ่านตลาดทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพ”

บริษัทมีแผนจะขยายโรงพยาบาลในประเทศเพิ่ม ตั้งเป้าสิ้นปี 2561จะมีโรงพยาบาลทั้งหมด 50 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 44 แห่ง และเตรียมเปิดโรงพยาบาลกรุงเทพแห่งที่ 45 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีในเดือน มี.ค. นี้ และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงพยาบาลกรุงเทพ สาขาเชียงราย เกาะช้าง พัทยา ส่วนอีก 2 แห่งจะเปิดเผยในภายหลัง   

บริษัทยังมีแผนจะเปิดโรงพยาบาลสำหรับชาวต่างชาติในไทย เพื่อรองรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มของแต่ละประเทศ อาทิ โรงพยาบาลสำหรับพม่า อาหรับ ญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ภาษาหลักของลูกค้าในให้บริการทั้งหมด รวมถึงใช้บุคคลากรจากประเทศดังกล่าวในการทำงานด้วย และจะเปิดโรงพยาบาลกัมพูชา 2 แห่ง

สำหรับนโยบายกีดกันชาวมุสลิมของโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประโยชน์ทางอ้อมกับธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ 1 ใน 3 มาจากลูกค้าชาวต่างชาติ