'เนวิน'เชื่อจัด 'โมโตจีพี' เงินสะพัด

หากไทยเป็นเจ้าภาพจัด “โมโตจีพี” พร้อมชี้กระตุ้นรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณที่ยังขาดอยู่

หลังจากที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา และนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการเตรียมทำเรื่องขอเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ในปี 2018 ทว่ากลับมีปัญหาในเรื่องการของบประมาณในการจัดการแข่งขัน ที่ต้องการอีก 100 ล้านบาทจากรัฐบาลในการเซ็นสัญญา

ล่าสุดประธานบริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้ออกมาพูดถึงความคืบหน้าในการจัดว่า “ขอให้กำลังใจคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กับผู้ว่าสกล ที่เข้าใจผลักดันนโยบายสปอร์ตทัวริซึมให้เกิดขึ้น การแข่งขันโมโตจีพี ถือเป็นสุดยอดแนวคิดสปอร์ตทัวริซึม เพราะมันจะนำมาสู่การท่องเที่ยว และรายได้มหาศาล”

นอกจากนั้น “บิ๊กเน” ยังกล่าวเพิ่มว่า “ผมกล้าการันตีว่าการจัดการแข่งขันโมโตจีพี จะได้รายได้การจากท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ด้วยการที่รัฐบาลประกาศเป็นเจ้าภาพ และลงทุนไม่ถึง 40 เปอร์เซนต์ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยทั่วโลกรัฐบาลต้องสร้างสนามแข่งขันเอง แต่ประเทศไทยมีสนามอยู่แล้ว เพียงแต่รัฐบาลเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และออกเงินเพียง 40 เปอร์เซนต์ แต่รายได้ที่กลับมาเป็นเม็ดเงินเกินหมื่นล้าน ขณะเดียวกันแบรนด์คำว่าไทยแลนด์ ก็จะแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในการท่องเที่ยวเชิงมอเตอร์สปอร์ต”

“เราเคยจัดบีชเกมส์ รัฐบาลอนุมัติงบประมาณมา 1,200 ล้านบาท ได้นักกีฬามาแข่งขัน 3,000 คน แต่ไม่แน่ใจว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามากี่คน และรายได้เข้ามาเท่าไหร่ แต่โมโตจีพีจ่ายเพียงแค่ร้อยกว่าล้านบาท มีคนชมมากถึงพันกว่าล้านคน และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเชื่อไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน ซึ่งถ้าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติ ก็คงเป็นไม่ส่งผลดีต่อประเทศ ซึ่งตอนนี้เขารอเราจนถึงเดือน เม.ย. เพื่อให้เขาได้กำหนดปฏิทินการแข่งขันปี 2018” ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวทิ้งท้าย