เบื้องหลังอาหารเชฟเน็ตไอดอล ‘ซอลต์เบ’

เบื้องหลังอาหารเชฟเน็ตไอดอล ‘ซอลต์เบ’

หากคุณแวะไปที่หนึ่งในร้านอาหารของเชฟเน็ตไอดอลเจ้าของฉายา “ซอลต์เบ” คุณไม่ต้องเอ่ยปากขอให้เขาหั่นเนื้อของคุณด้วยลีลาแหวกแนวเลย

ลืมเรื่องความสุกแบบมีเดียม แรร์หรือผสมเครื่องเทศเคจุน แค่ขอให้เขาปรุงเนื้อด้วยวิธีเดียวที่เขารู้นั่นก็คือ “เซ็กซี่”

“นูสเร็ต โกคเช” เชฟชาวตุรกีเจ้าของฉายาซอลต์เบคนนี้ โด่งดังชั่วข้ามคืนจากคลิปวิดีโอบนอินสตาแกรมที่เขาโชว์เทคนิคโรยเกลือที่ทั้งยียวนและยั่วยวนในเวลาเดียวกัน

ท่าเครื่องหมายการค้าของเขาที่มีการงอข้อศอกและโรยเกลือผ่านปลายแขน ได้นำไปสู่มุกล้อเลียนบนโลกออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า “มีม” มากมายหลายพันแบบ

ขณะที่นักร้องดังอย่าง “บรูโน มาร์ส” ยังทวีตถึงกระแสความโด่งดังของเชฟซอลต์เบ พร้อมกับบอกแฟนคลับว่า เจอแบบนี้ก็คงต้องยอม

เบื้องหลังเทคนิคน่าดึงดูดนี้มีเรื่องราวความสำเร็จที่เหลือเชื่อของเด็กชายคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวแรงงานซึ่งวาดฝันไว้ว่าจะเป็นเชฟให้ได้

บรรดาลูกจ้างในร้าน “นุสร์-เอ็ต สเต็กเฮาส์” (Nusr-et Steakhouse) ร้านอาหารแห่งใหม่ล่าสุดของเชฟซอลต์เบที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแกลเลอเรียที่กรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านขายเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์อย่าง “บอส” และ “แอร์เมเนกิลโด เซนญ่า” ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องประวัติความเป็นมาของร้าน ไม่ใช่เพราะมีคนห้ามแต่เพราะมีลูกค้าแห่เข้าร้านจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงราชพระวงศ์ของยูเออี ทำให้พนักงานต้องคอยรับแขกตลอดเวลา

จากเด็กล้างจานสู่เชฟระดับเซียน

โกคเชเกิดในครอบครัวทำเหมืองในพื้นที่ชนบทของตุรกี เพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกว่า โกคเชได้ไปทำงานเป็นเด็กล้างจานตอนเขายังหนุ่ม โดยต้องทำงานครั้งละหลายชั่วโมง แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความฝันที่ต้องการจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง

เขาเริ่มต้นจากการผูกมิตรกับบรรดาลูกค้าท้องถิ่น และทดลองกับอาหารของเขาเอง เมื่อมีคนกลับมาอุดหนุนมากขึ้น พวกเขาก็จะขอให้โกคเชทำสิ่งพิเศษ

จากเรื่องเล่าปากต่อปาก ตำนานจึงถือกำเนิดขึ้น

ปัจจุบัน โกคเชเป็นเจ้าของร้านอาหาร 6 แห่งในตุรกีและยูเออี ซึ่งคนที่มารับประทานอาหารจะได้กระทบไหล่เหล่าคนดัง และแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์ของยูเออี นอกจากนี้ เขายังมีแผนที่จะขยายสาขาไปถึงเมืองหลวงสำคัญ ๆ ของยุโรป และมีข่าวว่าเขากำลังตระเวนหาทำเลในกรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่

เมื่อได้ไปรับประทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารแห่งใหม่ล่าสุดของเขา คุณจะได้เห็นโกคเชพิถีพิถันกับกับเนื้อของลูกค้าแต่ละคนมากกว่าที่เราเคยเห็นในวิดีโอ

ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโกคเชคือเสื้อยืดสีดำและขาวทรงเข้ารูปและบางครั้งก็สวมกางเกงรัดหุ่น เขาทักทายกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง และมักเสิร์ฟและแล่เนื้อให้ลูกค้าถึงโต๊ะเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้ลูกค้าหลายคนต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอแล้วอัพโหลดลงบนโซเชียลมีเดีย

เมื่อไม่ได้ลงมาบริการลูกค้าเอง โกคเชก็จะไปมีส่วนร่วมกับแฟนคลับของเขาบนโซเชียลมีเดียเป็นประจำ และเขายังพกมือถือติดตัวตลอดเวลา และตอนนี้บัญชีอินสตาแกรมของเขามีผู้ติดตามแล้วกว่า 3 ล้านคน

รสชาติเด็ดถูกปาก

เป็นที่รู้กันว่า โกคเชทำงานวันละ 18 ชั่วโมง ด้วยการลงมือตรวจและแล่เนื้อวัวที่ส่งทางเครื่องบินมาจากโรงเชือดที่เขาแวะไปดูด้วยตัวเองเป็นประจำ แม้กระทั่งขนมหวานอย่าง “บาคลาวา” ก็ยังนำเข้ามาจากตุรกี

ด้วยจำนวนบริกรกลุ่มเล็กของโกคเช ทำให้พวกเขาต้องให้บริการลูกค้าอย่างรีบเร่ง ซึ่งบริกรหลายคนไว้หนวดสไตล์ตุรกีดั้งเดิมจนทำให้นึกถึงยุคปกครองของมุสตาฟา เคมาลอาตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งประเทศตุรกีและประธานาธิบดีคนแรกสมัยต้นศตวรรษที่ 20 ขณะเดียวกันร้านอาหารแห่งนี้ยังอยู่ได้ด้วยกลิ่นของเนื้อหอมกรุ่นที่โชยมาห้องครัวที่เปิดโล่งของร้าน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งในเมนูจานเด็ดของเชฟโกคเชอย่าง “ซูชิเนื้อ” ที่ต้องปรุงข้างโต๊ะลูกค้าโดยใช้เครื่องพ่นไฟทำความร้อนเนื้อบนถาดไม้ และยังมีการพ่นไฟสูงหลายฟุตเกือบถึงเพดานร้าน ซึ่งผลสุดท้าย ก็ทำให้อาหารเด็ดจานนี้มีรสชาติไม่เหมือนใคร

ความอุ่นซึ่งทำให้เนื้อเกือบเหนียว ถูกเติมเต็มอย่างลงตัวด้วยก้อนเนื้อกรอบ ๆ ของเนื้อทอดส่วนที่ถูกแล่ออก และส่วนคล้ายไส้ซูชิสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนั้น เมนูนี้ยังถูกออกแบบให้ต้องรับประทานด้วยมือ ทำให้ได้สัมผัสถึงความนุ่ม ชุ่ม อุ่นของเนื้อจนมือและปากเปื้อน และได้รับรู้รสชาติของชั้นเนื้อและรสชาติที่ซ่อนไว้เต็มปากเต็มคำ

‘สเต็ก สปาเก็ตตี้’

อีกเมนูที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “สเต็ก สปาเก็ตตี้” ที่ทำโดยการย่างเนื้อชิ้นยาวและบางอย่างรวดเร็วที่ข้างโต๊ะลูกค้า และให้บริกรใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้แบ่งเป็นคำ ๆ ซึ่งจุดเด่นของเมนูนี้คือเนื้อที่ชุ่มน้ำ สด และมีรสเผ็ดพอดี ๆ และเมื่อรับประทานก็แทบละลายในปากเลยทีเดียว

ความใส่ใจและความหลงใหลในรายละเอียดของโกคเชแสดงออกมาผ่านอาหารเกือบทุกจานที่เขาทำ

อาหารหลัก หรือเมนคอร์สในร้านของเชฟโกคเช มีราคาอยู่ที่ระหว่าง 60-200 ดอลลาร์ (2,111-7,037 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ถูกเลย แต่ก็ไม่มากเกินกว่าราคามาตรฐานในยูเออี

ลูกจ้างเก่าแก่ในร้านคนหนึ่งบอกว่า เชฟโกคเชแต่งงานแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดกัน เพราะเชฟแต่งกับ “งาน” ของเขาแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ เขายังไม่ชอบไปเที่ยวด้วย นอกจากต้องไปหาทำเลสำหรับเปิดสาขาใหม่เท่านั้น