สมช.จ่อถก 'ลาว' พบคนจัดวิทยุหมิ่นสถาบัน

สมช.จ่อถก 'ลาว' พบคนจัดวิทยุหมิ่นสถาบัน

“เลขาฯ สมช.” เผยมีรายชื่อคนจัดวิทยุหมิ่น สถาบันฯ5-6ราย จ่อหารือกับ สปป.ลาว แจงมุสลิมสัญชาติไทยไม่โดนแบนจากคำสั่ง "ทรัมป์" ยกเลิกวีซ่า7ประเทศ

พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯได้มอบหมายให้ประสานงานหารือกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากกรณีที่มีจัดการสถานีวิทยุเผยแพร่ข้อมูลกระทบสถาบันฯว่า ขณะนี้รอรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบของลาวแจ้งมายังเอกอัครราชทูตที่เวียงจันทน์เพื่อเตรียมเดินทางไป ส่วนเรื่องของจำนวนของผู้จัดรายการวิทยุหมิ่นสถาบันฯนั้นประชาคมข่าวกรองก็ได้รายงานเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งได้รายงานให้พล.อ.ประวิตร ทุกสัปดาห์ ท่านเห็นว่าถึงเวลาที่จะให้ตนนำข้อมูลไปคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบของประเทศลาว

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อมูลที่ทางการไทยต้องส่งให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับสปป.ลาว พล.อ.ทวีป กล่าวว่า จริงๆ แล้วข้อมูลส่วนนี้ เราก็ได้มีการประสานงานกันตลอดเวลา แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ตนได้นำข้อมูลเหล่านั้นไปเรียนกับรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งเป็นข้อมูลบุคคลที่มีตามหมายจับของเรา แต่อาศัยอยู่ในสปป.ลาว แล้วยังดำเนินการใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดีย ออกแถลงการณ์บิดเบือนความจริงโจมตีสถาบันฯ ซึ่งขณะนี้เรามีข้อมูลประมาณ 5-6 คน ซึ่งทางสายข่าวของเราก็จะตรวจสอบอยู่เรื่อย ๆ 

ส่วนที่สปป.ลาว มีกฎหมายความผิดเหมือนมมาตรา 112 ของไทยหรือไม่ พล.อ.ทวีปกล่าวว่า จริง ๆ แล้วขณะนี้เราไม่ได้มีข้อผูกพันส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเขา หากแต่เป็นการข้อร้องในลักษณะต่างร่วมมือและตอบแทนกัน ไม่ได้หมายความว่าแลกเปลี่ยนผู้ต้องหาซึ่งกันและกัน แต่หมายความว่าหากทางการ สปป.ลาวต้องการตัวใครที่ทำผิดกฎหมายบ้านเขา เขาก็อาจจะขอร้องในลักษณะเดียวกัน คือให้จับและส่งตัวไปให้ ถือเป็นวิธีต่างตอบแทน 

แจงมุสลิมสัญชาติไทยไม่โดนแบนจากคำสั่งทรัมป์ ยกเลิกวีซ่า 7 ประเทศ  

พล.อ.ทวีป กล่าวกรณีที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งยกเลิกวีซ่าประชาชนจาก 7 ประเทศมุสลิมเป็นเสลา 90 วันว่า เรื่องนี่จะเกี่ยวข้องกับผู้ที่เกี่ยวกับสัญชาติที่ถูกระบุเท่านั้น คนไทยที่เป็นมุสลิม และยังถือสัญชาติไทยจึงไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าว   

ส่วนที่ผ่านมาทางการไทยได้วิเคราะห์ นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะส่งกระทบต่อไทยอย่าไรบ้างหรือไม่ พล.อ.ทวีปกล่าวว่า เบื้องต้นก็จะมีเรื่องท่าทีอิทธิพลของสหรัฐฯที่จะมีต่อประเทศทวีปเอเชีย ซึ่งจะเปลี่ยนบทบาทไปทำให้ชาติมหาอำนาจอื่นเข้ามามีบทบาทแทนได้ สิ่งที่เราตรวจสอบขณะนี้ก็คือว่า สิ่งที่เขาได้ประกาศเมื่อตอนหาเสียงกับสิ่งที่เขาทำอยู่ มันตรงกันมากน้อยแค่ไหน อย่างที่เราเห็นก็คือคำสั่งให้เริ่มสร้างกำแพงกั้นพรมแดนติดกับเม็กซิโก กับออกจากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership หรือ TPP) ก็เป็นไปตามที่เขาประกาศ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงว่าจะมีคนไม่พอใจแล้วก่อเหตุที่สถานทูตสหรัฐฯในไทยหรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ขณะนี้ประชาคมข่าวกรองก็จะติดตามกลุ่มต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีวี่แววการก่อเหตุ