จนท.นับร้อยจับโรงชำแหละหมูเถื่อน เตรียมขายตรุษจีน

จนท.นับร้อยจับโรงชำแหละหมูเถื่อน เตรียมขายตรุษจีน

ปศุสัตว์-กองปราบนับ100นาย จับโรงชำแหละหมูเถื่อนกลางดึก เตรียมขายตรุษจีน ชี้เนื้อมีสารเร่งเนื้อแดง

เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2560 กรมปศุสัตว์ร่วมกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของกองปราบ เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 รักษาพระองค์ ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เกือบ 100 นาย ออกตรวจค้นจับกุมโรงฆ่าสัตว์ เถื่อนจำนวน 4 แห่งพร้อมกัน ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.นครนายก

จุดแรก กำลังทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง บ้านเลขที่ 70 หมู่ 2 ต.วังกระโจม อ. เมือง จ.นครนายก โดยมีนายสุนทร ร้อยทอง แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน จึงได้แสดงหมายศาลจังหวัดนครนายก เข้าทำการตรวจค้นจากการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบคนงาน กำลังมีการชำแหละสุกรอยู่ภายในบ้านพัก จำนวน 3 ตัว และสุกรที่รอการเชือกอยู่ในร้าวอีก จำนวน 30 ตัว

จุดที่ 2 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 352/13 ถ.ชลประสิทธิ์ อ.เมืองนครนายก พบ นายชุงใช้ แซ่เฮง และนางอัมพร สำเภากิจ อยู่ภายในบ้าน จากการตรวจค้นพบว่า มีการชำแหละสุกรไปแล้ว จำนวน 4 ตัว และที่รอการเชือดอีกเกือบ 20 ตัว

จุดที่ 3 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ ข3-552/3 ถนนชลประสิทธิ์ อ.เมือง จ. นครนายก พบนายสมนึก อ่อนละมูล เป็นเจ้าของบ้าน และมีการชำแหละแล้ว จำนวน 12 ตัว และรอการเชือดอีก จำนวน 38 ตัว ส่วน จุดที่ 4 พบว่ามีการชำแหละสุกร จำนวน 3 ตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด 4 จุด พร้อมนำของกลางเป็นเนื้อสุกร จำนวน 22 ตัว อุปกรณ์ในการชำแหละพร้อมผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายสัตวแพทย์ ธีระวุฒิ สุวัธนะเชาว์ รักษาการปศุสัตว์ เขต 2 ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า “การทำงานในวันนี้เป็นการทำงานของกรมปศุสัตว์ร่วมกับสำนักงานตุ้มครองผู้บริโภคของกองปราบ ออกตรวจเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 4 ราย จากการตรวจค้นพบสารเร่งเนื้อแดง 1 ตัวอย่างจาก 3 ตัวอย่าง ส่วนโทษของการตั้งโรงฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้พิพากษา การดำเนินการครั้งนี้ต้องการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่ปลอดภัย ปกติโรงฆ่าสัตว์จะมีสัตวแพทย์มาตรวจสภาพของสัตว์ที่จะถึงมือผู้บริโภค แต่โรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้รับอนุญาตเราก็ไม่สามารถข้าไปตรวจได้ และไม่สามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้ ส่วนเนื้อสุกรที่ยึดมาได้จะนำขอทำลาย เนื่องจากมีสารเร่งเนื้อแดงไม่เหมาะในการนำไปบริโภค ห้ามจำหน่ายไม่ให้ถึงมือผู้บริโภค”