‘เออร์ซิน พามุกซูสเซอร์’ ชีวิตเริ่มต้นในวัยเกษียณ

อดีตนักธุรกิจวัย 70 ที่ยังคงแข็งแรง สดใส “เออร์ซิน พามุกซูสเซอร์” บอกเล่าประสบการณ์เกษียณตัวเองจากตำแหน่งผู้บริหารธุรกิจเทเลคอมและสื่อในหลายบริษัทชั้นนำของตุรกี ที่รุ่งเรืองสุดขีดมาใช้ชีวิตที่เขาเรียกว่า “รักตัวเองมากขึ้นในเสี้ยววินาที”

เมื่อทุกอย่างกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่จำเจ ตื่นมาต้องทำสิ่งนั้น ตามด้วยสิ่งนี้ กินแบบนี้ ดื่มแบบนั้น ทำในสิ่งที่เหมือนกับเมื่อวาน เกิดเป็นความเบื่อหน่าย “เออร์ซิน พามุกซูสเซอร์” จึงตัดสินใจเกษียณตัวเองในวัย 46 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลกำไรชีวิต แล้วถือโอกาสมาพักผ่อนที่ประเทศไทย โดยตรงไปที่เกาะสมุยและเข้าคอร์สสปา นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ทำดีท็อกซ์ร่างกาย เขารู้สึกดีมากจนเหมือนปลดล็อคอะไรบางอย่างในสมอง เป็นครั้งแรกที่รู้วิธีดื่มน้ำ รู้วิธีรับประทานอาหาร รวมถึงโอกาสที่ได้นั่งวิปัสสนา กำหนดการหายใจและโยคะ ล้วนแต่ทำให้กายและใจตกผลึกกับกิจกรรมที่ทำให้เขารักตัวเองมากขึ้น รู้จักเลือกสรรสิ่งที่ดีๆ ให้กับตัวเอง

“ชีวิตเปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ผลกำไรให้กับบริษัท สร้างรายได้ในบัญชีของตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งที่ทำคือ การเพิ่มคุณภาพชีวิตของตัวเอง ให้มีพลัง รู้สึกดี และมีความสุขกับชีวิตในทุกวัน ได้ทำอะไรที่อยากทำ อย่างการขับรถที่ไปไหนก็ได้ที่อยากไปในอายุเท่านี้”

สุขภาพ จึงเป็นเป้าหมายที่น่าลงทุนอย่างที่สุด เขากล่าวว่า หากลงทุนในร่างกายและสุขภาพ ร่างกายของเราก็จะตอบแทนกลับมาอย่างงาม ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นคนชราที่ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เหมือนชาวแคนาดาที่วิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตรในวัย 90 ปีได้ สิ่งสำคัญคือ การใช้ชีวิต เออร์ซินมองว่า ชีวิตของแต่ละคนมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสารเคมีและพลาสติก เพราะผู้ประกอบการโดยมากต้องการลดต้นทุน สร้างกำไร ทำให้ร่างกายห่างไกลจากธรรมชาติ ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง บางคนก็เอาใจใส่สุขภาพมากจนเกินไป จนร่างกายไม่รู้จักสิ่งที่จะมาทำอันตราย

“ผมไม่อยากเป็นคนแก่ที่ขึ้นบันไดไปชั้น 2 ก็ยังเหนื่อย จึงพัฒนาระบบทำความสะอาดร่างกายเพื่อให้รู้สึกถึงพลังอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การทำงานที่ดีขึ้น น้ำหนักลดลง ผิวพรรณดีขึ้น ลดเสี่ยงโรคร้ายต่างๆ เราก็สร้างเป็นโปรแกรมใน The LifeCo สปาทางการแพทย์ (www.thelifeco.com) ผมเดินได้มากขึ้น นานขึ้น ไปเล่นสกี แล่นเรือไปตกปลา คิดและบริหารธุรกิจทั้งในตุรกีและภูเก็ตได้อย่างสนุกสนาน ทำทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะสุขภาพที่ดีเป็นการเพิ่มศักยภาพทางร่างกายและจิตใจ เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ให้ชีวิต โดยไม่ต้องกินยานอนหลับหรือดื่มแอลกอฮอล์คลายเครียด”

ในวัย 70 ปี เออร์ซิน กล่าวว่า สิ่งที่ได้ทำ ปรับ เปลี่ยนวิถีชีวิตของตนนั้น ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น น้ำหนักลดลงไปถึง 18 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวในวัย 46 ปี และดูอ่อนเยาว์ มีพลังที่จะทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่าสมัยที่อายุ 46 ปีเสียอีก เขาไม่ได้มองปลายทางชีวิตของตนเองมากไปกว่าความสุขในปัจจุบัน ที่ทำด้วยความรักและเชื่อว่าจะทำไปจนชีวิตจะหาไม่ ที่สำคัญคือ สุขภาพ เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบร่างกายของตนเอง เลือกกิน เลือกออกกำลังกาย เลือกพักผ่อน หรือจะใช้ชีวิตที่คุ้นชินโดยไม่คิดเปลี่ยนแปลง

*คัดย่อจาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจ (กายใจ) ฉบับวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2560