ศิษย์แถลงโต้! สาวร้องเจ้าอาวาสลวงเสพเมถุน ชี้รีด30ล้านเจอคุก

ศิษย์แถลงโต้! สาวร้องเจ้าอาวาสลวงเสพเมถุน ชี้รีด30ล้านเจอคุก

ลูกศิษย์แถลงโต้ข่าวฉาว! สาวร้องเจ้าอาวาสลวงเสพเมถุน ชี้คดีขู่กรรโชกทรัพย์30ล้าน อ้างศาลกาฬสินธุ์สั่งลงโทษคุก-ไม่รอลงอาญา

จากกรณี น.ส.โสมณุดา สัมมานุช ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายพีระ ทองโพธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีถูกพระเมือง พลวัฑโฒ หรือพระโพธิญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดวัดป่ามัชฌิมวาส ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ใช้เล่ห์ล่อลวงจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ทางเพศหรือไม่ เหตุเกิดเมื่อกลางปี 2557

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 คณะศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาส ได้ออกแถลงการณ์ ลงวันที่ 19 มกราคม 2560 เรื่องแถลงการณ์จากคณะศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาส โดยมีข้อความว่า
ตามที่ปรากฏในสื่อ ซึ่งออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 เกี่ยวกับการร้องเรียนของนางสาวโสมณุดา (บี) สัมมานุช ที่ร้องต่อสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น คณะศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาส บ้านดงเมือง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขอชี้แจงว่าข้อความกล่าวอ้างของนางสาวโสมณุดา(บี) ไม่เป็นความจริงทุกประการ

เนื่องจากนางสาวโสมณุดา (บี) ได้จัดทำคลิปวีดีโอขึ้น ซึ่งไม่เป็นความจริง เพื่อทำลายชื่อเสียงเจ้าอาวาสวัดป่ามัชณิมวาส และขู่กรรโชกเอาเงินจากทางวัดป่ามัชณิมวาส จำนวน 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาท) เป็นเหตุให้วัดป่ามัชณิมวาสได้มีการร้องทุกกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนางสาวโสมณุดา (บี) ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในข้อหาความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ และความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งในชั้นจับกุมนางสาวโสมณุดา (บี) (ผู้ต้องหา) จับกุมได้พร้อมของกลาง และนางสาวโสมณุดา (บี) ยอมรับว่า เป็นผุ้จัดทำคลิปวีดีโอดังกล่าวขึ้น เพื่อขู่กรรโชกเอาเงินจากทางวัดจริง และในชั้นสอบสวนนางสาวโสมณุดา (บี) ทนายความและญาติ ได้มากราบขอขมาเจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิววาส ด้วยสำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำผิดไปแล้ว และได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร

แต่คดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งยอมความไม่ได้ พนักงานสอบสวนได้พิจารณาพยานหลักฐานและสรุปสำนวน มีความเห็นสั่งฟ้องนางสาวโสมณุดา(บี)ตามข้อกล่าวหาทุกประการ และได้ส่งสำนวนต่อไปให้พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ส่งฟ้องตามข้อกล่าวหาและได้เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนางสาวโสมณุดา(บี) เป็นจำเลยตามคดีอาญาหลายเลขดำที่ 174/2558 และวัดป่ามัชฌิมวาสได้เข้าเป็นโจทย์ร่วมด้วย

ต่อมา ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้พิจารณาพยานหลักฐานจากโจทย์ โจทย์ร่วมและจำเลยแล้ว จึงได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องโจทก์ทุกข้อกล่าวหา โดยพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2937/2559 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 จำเลยได้อุทธรณ์ และได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งในระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์นั้นห้ามเผยแพร่พยานหลักฐานในคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ดังนั้นคณะศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาสเห็นว่า คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งจำเลยได้ใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมตลอดมาแล้ว คณะศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาส จึงเป็นสมควรให้เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการยุติธรรมของศาลและขอความร่วมมือต่อสื่อมวลชนในการเผยแพร่ข่าวสารอย่างระมัดระวัง โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีการลงชื่อด้านท้ายว่า ในนามศิษยานุศิษย์วัดป่ามัชฌิมวาส นายปิยะทัศน์ วีระนพนันท์ นายสุทัศน์ ศิริพรอดุลศิลป์ และนายพรเทพ เสียงไพรพันธ์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังคณะศิษยานุศิษย์ของวัดป่ามัสฌิมวาส ที่ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ ซึ่งทางวัดยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพียงแต่ออกแถลงการณ์เท่านั่น และยังไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดได้ เพราะเกรงว่าจะหมิ่นศาล และปล่อยเป็นหน้าที่ของศาล จึงขอปรึกษากันก่อน ส่วนบรรยากาศที่วัดป่ามัชฌิมวาสค่อนข้างเงียบเหงา แต่ก็ยังมีประชาชนทั่วไปเข้าไปทำบุญ ซึ่งก็ไม่มากนัก และมีบรรดาลูกศิษย์เข้าไปในวัด แต่ทางศิษยานุศิษย์ขอความร่วมมือและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพภายในวัด พร้อมทั้งไม่ขอพูดถึงรายละเอียดใดๆ เพราะได้ออกแถลงการณ์แล้ว จึงไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสอยู่ภายในวัดหรือไม่

ด้านนายศุภเดช การถัก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบและตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามที่มีการเสนอข่าว คือทางวัดได้แจ้งความและฟ้องในข้อหาความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ และความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับนางสาวโสมณุดา กระทั่งมีการสั่งฟ้องและศาลตัดสินจำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน และขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ ไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้ เนื่องจากเรื่องยังอยู่ที่ศาล อีกทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์มีหน้าที่สนองงานของคณะสงฆ์ ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาต่างๆและประสานงานของภาครัฐกับคณะสงฆ์เท่านั่น ไม่มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆในเรื่องนี้