Daily Market Outlook (20 ม.ค.60)

Daily Market Outlook (20 ม.ค.60)

จับตา Trump เข้ารับตำแหน่งวันนี้

คาดหุ้นไทยวันนี้ไม่ไปไหนไกล ตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะนิ่งก่อนการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ Donald Trump ในวันนี้ นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/59 และ 2559 ของจีนเวลาราว 9.00 น.ด้วย นักลงทุนยอมรับได้กับการตัดสินใจของ ECB เมื่อวานที่จะยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเต็มที่และการที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงการจะหยุดมาตรการ QE ทั้งๆที่เศรษฐกิจยูโรโซนปรับตัวดีขึ้น ภายในประเทศ ธปท.มีมุมมองบวกมากขึ้นกับการส่งออก แต่ขอรอดูนโยบายของ Trump และตัวเลขส่งออกใน 2 เดือนข้างหน้าก่อนปรับประมาณการในเดือน มี.ค. การเปิดประมูลวางสายไฟฟ้าแรงสูงมูลค่า 1.57 แสนล้านบาทเพื่อทดแทนสายไฟฟ้าเก่าที่มีอายุมากกว่า 40 ปีเป็นบวกต่อผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ

หุ้นเด่นวันนี้: INTUCH (ราคาปิด 51.75 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 58 78.00 บาท)

บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ มีปันผลตอบแทนที่ดีที่สุดในหมวดโทรคมนาคมขณะนี้และเป็นหนึ่งในหุ้นปันผลที่ดีสุดใน SET เนื่องจากปันผลที่แข็งแกร่งจาก ADVANC เพราะเราเชื่อว่า ADVANC จะคงนโยบายปันผล 100% ต่อไป เราคาดว่า INTUCH จะให้ปันผลตอบแทนสูงถึง 8.3 และ 8.8% ในปี 60 และ 61 ตามลำดับ การได้ใบอนุญาต 900 และ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์มาทำให้ ADVANC มีแบนด์วิธของคลื่นเพียงพอเพื่อจะให้บริการที่ดีกว่าแก่ลูกค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและช่วยให้ก้าวเข้าสู่ตลาด 4จีได้อย่างสะดวก ค่าส่วนแบ่งรายได้ก็น่าจะประหยัดลงได้จากการเปลี่ยนมาเป็นระบบใบอนุญาตจากระบบสัมปทาน ด้านธุรกิจ FBB หรือ AIS Fibreก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากรายได้แค่ 1 ลบ. ในไตรมาส 4/57 เป็น 232 ลบ. ไตรมาส 3/59 เราเชื่อว่า FBB จะมีสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในไม่ช้าเรามองว่าบริษัทมีมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งซึ่งจะทำให้ ADVANC สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากการเติบโตของการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตได้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง THCOM ผู้ให้บริการดาวเทียมชั้นนำระดับโลกน่าจะมีรายได้ก้อนใหม่เข้ามาจากลูกค้าใหม่รายสำคัญหลายราย อาทิ Forever Group จากเมียนมาร์และ Hinduja Group จากอินเดีย เราเชื่อว่าอุปสงค์จากลูกค้าเหล่านี้จะช่วยหนุนการเช่าใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมได้อย่างดี Price Pattern ของ INTUCH มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แต่แนวโน้มหลักยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal INTUCH มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 54.50 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 60 บาท หาก Price Pattern ของ INTUCH สามารถรักษาการเกิด Daily Buy Signal มีโอกาสที่จะเกิดการ Rebound เพื่อปิด Falling Gap ที่เปิดไว้ที่ 61.25 บาท ทั้งนี้ INTUCH มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 50.75 บาท (แนวต้าน: 52.00, 52.25, 52.50; แนวรับ: 51.50, 51.25, 51.00)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• ธปท.มองภาคส่งออกเชิงบวกมากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกน่าจะทำให้การส่งออกเติบโตได้ในปีนี้ ชนะการคาดการณ์ของ ธปท. ที่ว่าจะไม่เติบโต อย่างไรก็ดี ธปท. รอพิจารณานโยบายการค้าใหม่ของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐและตัวเลขส่งออกในช่วงเดือนแรกๆ ก่อนที่จะพิจารณาปรับประมาณการใน มี.ค. (Bangkok Post)

• เปิดประมูลสายไฟฟ้าแรงสูง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ปีนี้วางแผนจะเปิดประมูลก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระยะทางรวม 500 กม. มูลค่า 1.57 แสน ลบ. เพื่อทดแทนสายส่งเดิมที่ใช้มากว่า 40 ปีและเพื่อพัฒนาสายต่อส่วนต่อขยายอันจะเป็นการตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของประเทศ ปีนี้น่าจะเปิดประมูล 55 สัญญามูลค่างบลงทุน 6 หมื่น ลบ. (Bangkok Post) ความเห็น: ผู้ให้บริการสายส่งแรงสูงอย่าง DEMCO (8.35 บาท) และ SCI (11.10 บาท) น่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นนี้

• KOOL (ราคาปิด 7.10 บาท) เตรียมเปิดตัวพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่พร้อมผุดโปรดักต์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า พ.ค.นี้ หวังดันรายได้ปี 60 โต 40% เดินหน้าเพิ่มจุดขาย 500 สาขา จากปัจจุบัน 240 สาขา เร่งขยายฐานต่างแดนเต็มสูบ รุกหนัก CLMV (อินโฟเควสท์,ข่าวหุ้น,ทันหุ้น)

• MC(ราคาปิด 15.40 บาท) MC เล็งขยาย 2 สาขาใหม่ในเมียนมา และลาว ในไตรมาส 1/60 พร้อมเร่งเจาะตลาดมาเลเซีย-อินโดนีเซีย หลังเห็นศักยภาพการเติบโตเด่น หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้นอกบ้านโต 30% เล็งสยายปีกฟิลิปปินส์ต่อ คาดหวังปี 2560 รายได้โต 15%(อินโฟเควสท์,ทันหุ้น)Comment: เราแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 17.30 บาท

• TASCO (ราคาปิด 22.70 บาท) คาดผลงานปี 2560 ยังแข็งแกร่ง จากการขยายงบลงทุนแต่ละประเทศ-ราคายางมะตอยฟื้น: นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า ปี 2560 จะปีที่แข็งแกร่งของ TASCO เนื่องจากงบประมาณรัฐบาลในประเทศประจำปี 2560 สำหรับการซ่อมสร้างถนนยังเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่อาจได้รับประโยชน์เพิ่มเติมหากรัฐบาลออกงบเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ ด้านตลาดต่างประเทศดีขึ้นทั้งในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยปีนี้จะไม่มีปัญหาการผลิตยางเกินความต้องการเหมือนปีที่แล้ว (อินโฟเควสท์,ข่าวหุ้น,ทันหุ้น)ความเห็น: เราประเมิน EPS ของ TASCO ปี 2559 ไว้ที่ 2.00 บาท (-39% YoY) และปี 2560 ไว้ที่ 2.07 บาท(+4%YoY) เราแนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมายที่ 23.00 บาท อิงค่า PER ที่ 11 เท่า หากสถานการณ์ปี 2560 ดีขึ้น และราคาน้ำมันทรงตัวไม่ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรง อาจจะมีการปรับเป้าหมาย EPS เพิ่มขึ้น ระยะสั้นยังคงแนะนำเก็งกำไร

ต่างประเทศ:

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสหลังการเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หลังนางเยลเลน ประธานเฟดส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลง 20/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.46% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 2.39% เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 4 ม.ค. (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่สดใสหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐ ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ไม่ได้หารือเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เงินยูโรอ่อนค่าต่ำกว่า 1.06 ดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับต่ำสุดของวันในขณะที่นายดรากีอยู่ในงานแถลงข่าว ส่วนดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 115.29 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 13 ม.ค. (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันพฤหัส โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ (Reuters)

• ทรัมป์จะยกเลิกข้อตกลงทางการค้า โฆษกของนายโดนัลด์ ทรัมป์เผยว่า ทรัมป์จะไม่รอให้สภาคองเกรสยืนยันตำแหน่งของเขาในคณะรัฐบาลในการที่จะถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) และดำเนินการเจรจาใหม่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือ NAFTA ทรัมป์ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเขาจะดำเนินการผ่านคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐที่ใช้ในการออกกฎหมายโดยไม่ต้องผ่านสภาคองเกรส (executive order) (Reuters)

• ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดในเดือนธ.ค. เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 11.3% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.9% สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิตในปี 2559 (Reuters)

• จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ม.ค.ต่ำกว่าระดับ 233,000 รายเมื่อกลางเดือนพ.ย. ปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. ปี 1973 จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่แสดงว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง เป็นสัปดาห์ที่ 98 ติดต่อกัน และยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 (Reuters)


ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงโดยหุ้น Zodiac Aerospace ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตที่นั่งโดยสารในเครื่องบิน ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่น 22.8% หลังมีข่าวว่า Safranยื่นข้อเสนอ Takeover มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่หุ้น Moneysupermarket.com ปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง (Reuters)

• ประธาน ECB เชื่อยูโรโซนยังคงต้องการมาตรการกระตุ้นต่อไป ส่งผลให้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในแดนลบและเดินหน้าโปรแกรมการเข้าซื้อสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังกล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปัจจุบันซบเซาเนื่องจากการชะลอตัวในการปรับเปลี่ยนทางโครงสร้าง (Reuters)

เอเชีย:

• อารมณ์ธุรกิจของญี่ปุ่นดีขึ้นจากแนวโน้มการเติบโตที่ดี: ขวัญและกำลังใจของผู้ผลิตญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ห้าในเดือนมกราคมสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และอารมณ์ของผู้ประกอบการภาคบริการก็เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558ตามโพลของรอยเตอร์/Tankan เป็นผลจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวและราคาหุ้นในตลาดฯ ปรับตัวดี (Reuters)

• ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นายHaruhiko Kuroda กล่าวว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มการเติบโตที่ประมาณ 1.5% ในขณะนี้และในปีงบประมาณถัดไปจากสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาสี่ปีนับตั้งแต่ นายกรัฐมนตรีชินโซอะเบะ ขึ้นมามีอำนาจในปลายปี 2555 เขายังกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันของ ประธานาธิบดีทรัมป์ โดยกล่าวว่ามันจะไม่แพร่กระจายไปส่งผลแย่ต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าที่กำลังอยู่ในช่วงเจ็บปวด (Reuters)

• จีนคาดว่าจะรายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศในไตรมาส 4/59 ที่อัตราคงที่ 6.7% ในวันศุกร์นี้ โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่สูงขึ้นและเงินให้กู้ยืมเงินของธนาคารที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ นำไปสู่การกำหนดนโยบายให้เหมาะสมในปี 2560 จีนพยายามที่จะลดความเสี่ยงทางการเงินจากฟองสบู่ที่อาจจะแตกเพราะการเจริญเติบโตในตราสารหนี้ (Reuters)

• ทางการจีนเรียกเจ้าหน้าที่ชั้นนำจากเมืองที่มีมลพิษอย่างหนัก: สภาพแวดล้อมของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องเรียกเจ้าหน้าที่ชั้นนำจากเมืองหลินเฟิน ที่ถูกขึ้นบัญชีสำหรับการควบคุมมลพิษก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่มีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานแห่งชาติถึง16 เท่า (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบบวกวันพฤหัส แต่สต็อกน้ำมันสหรัฐสะสมมากขึ้นก็จำกัดขาขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบสัปดาห์หลัง IEA กล่าวว่าตลาดน้ำมันจะตึงตัวมากขึ้น แม้ก่อน แม้การลดกำลังผลิตของ OPEC และผู้ผลิตอื่นจะมีผล น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้า บวก 38 เซนต์หรือ +0.7% ปิด 54.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 36 เซนต์หรือ +0.7% ปิด 51.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำปรับลงวันพฤหัส จากดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีหนุน Janet Yellenประธาน Fed ในการขึ้นดอกเบี้ยในวันพุธ ราคาทองคำตลาดจรปิดลบ 0.2% ที่ 1,201.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ร่วงลง 1.1% จากวันก่อน แรงสุดนับแต่ 15 ธ.ค. ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าปิดลบ 0.9% ที่ 1,201.7 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)