ค่ายรถ‘ปรับสต็อก-ส่งออกลด’ ฉุดยอดธ.ค.

ค่ายรถ‘ปรับสต็อก-ส่งออกลด’ ฉุดยอดธ.ค.

ค่ายรถชะลอผลิตรถรุ่นใหม่ ฉุดยอดเดือน ธ.ค.59 ต่ำสุดรอบ 19 เดือน รวมทั้งปี 1.94 แสนคัน ด้านยอดขายในประเทศหดตัวเฉียด 4%

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าเดือน ธ.ค. 2559 ยอดผลิตรถยนต์มีทั้งสิ้น 135,792 คัน ซึ่งเป็นยอดผลิตที่ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน และลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า 11.07% ลดลงจากเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน 20.49%

การที่ยอดผลิตเดือน ธ.ค. หดตัวอย่างรุนแรงมาจากทั้งการที่เดือนดังกล่าวมีวันหยุดจำนวนมาก ทั้งทางการ และการประกาศหยุดเพิ่มเติมของโรงงานต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นเพราะบริษัทรถยนต์หลายค่ายตัดสินใจลดการผลิตรถในบางรุ่นลง เพื่อลดสต็อกรองรับการผลิตรถรุ่นใหม่แทนที่ในต้นปีนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเดือน ม.ค.ปีนี้ มีรถเปิดตัว 5 รุ่นด้วยกัน เริ่มจากฮอนด้า ซิตี้ ตามด้วยอีโคคาร์รุ่นใหม่ของนิสสัน คือ โน๊ต ที่เปิดตัวไปแล้ว และรถที่รอเปิดตัว คือ มาสด้า 3 โตโยต้า วีออส และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส รุุ่นประกอบในประเทศ

“เมื่อมีรถใหม่รอเปิดตัวปีนี้ ดังนั้นปลายปีที่แล้วก็ต้องชะลอการผลิตลงไป เพื่อบริหารจัดการสต็อกให้สอดคล้องความต้องการของตลาด และเคลียร์ก่อนที่รุ่นใหม่จะมา”

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า รถที่เปิดตัวเดือน ม.ค. เป็นรถที่มีบทบาทในตลาดค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรถกลุ่มซับคอมแพคท์ (ซิตี้, วีออส) ที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถยนต์นั่ง และมีสัดส่วน 16% ของตลาดรวมรถทุกประเภท ขณะที่รถอีโค คาร์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และล่าสุด ปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 15% ของตลาดรถยนต์โดยรวม ดังนั้นเมื่อกลุ่มนี้ชะลอผลิตเพื่อรอรถรุ่นใหม่ ทำให้เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ยอดผลิตรถยนต์นั่งเพื่อขายในประเทศลดลง 27.51%

การลดลงของยอดผลิตอีกส่วนหนึ่งมาจากตลาดส่งออกที่คู่ค้าหลายประเทศมีภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้การผลิตรถปิกอัพสำหรับส่งออกลดลง 24%

ผลิตทั้งปี59 เพิ่ม 1.6%

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับยอดผลิตรถยนต์ทั้งปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,944,417 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.64% โดยรถยนต์นั่งผลิต 811,805 คัน เท่ากับ 41.75% ของยอดการผลิตทั้งหมด และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.61% รถยนต์โดยสารเดือน ธ.ค. ผลิต 6 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า 66.67% รวมทั้งปี 182 คัน ลดลง 59.1% รถปิกอัพ 1 ตัน เดือน ธ.ค. ผลิต 76,619 คัน ลดลง 18.01% ทั้งปีผลิต 1,102,816 คัน เท่ากับ 56.72% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงปีก่อนหน้า 1.17% โดยแบ่งเป็น รถบรรทุกเดือน ธ.ค. ผลิต 2,427 คัน เพิ่มขึ้น 10.77% รวมทั้งปีผลิต 29,614 คัน เพิ่มขึ้น 5.64%

ด้านรถจักรยานยนต์เดือน ธ.ค.ผลิตได้ทั้งสิ้น 204,146 คัน ลดลง 0.3% แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 140,147 คัน ลดลง 3.17% และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 63,999 คัน เพิ่มขึ้น 6.63%

รวมยอดผลิตทั้งปี 2,446,249 คัน เพิ่มขึ้น 2.04% แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป 1,820,358 คัน เพิ่มขึ้น 0.72% และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ 625,891 คัน เพิ่ม 6.06%

ยอดขายติดลบ 3.9%

ส่วนยอดขายในประเทศ เดือน ธ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 86,858 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า 14.4% เนื่องจากปลายปี 2558 ประชาชนเร่งซื้อรถยนต์จำนวนมากก่อนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2559 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน 34.1% เนื่องจากมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อเดือนธ.ค. 32,000 กว่าคัน และจากกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนรถจักรยานยนต์เดือน ธ.ค. มียอดขาย 124,667 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% แต่ลดลงจากเดือน พ.ย. 9.2%

รวมทั้งปี 2559 มียอดขายรถยนต์ 768,788 คัน ลดลง 3.9% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,738,231 คัน เพิ่มขึ้น 6%

ส่งออกทำรายได้ 9.44 แสนล้าน

ขณะที่ เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว มีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 86,120 คัน ลดลง 0.61% เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง เช่น ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ มูลค่า 46,366.76 ล้านบาท ลดลง 0.1%

ส่งออกเครื่องยนต์ 2,731.09 ล้านบาท ลดลง 36.58% ชิ้นส่วน 15,594.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% อะไหล่รถยนต์ 2,574.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.93% รวมมูลค่าส่งออกสินค้ารถยนต์เดือน ธ.ค. 67,267.37 ล้านบาท ลดลง 0.87%

ทั้งนี้ การส่งออกทั้งปี รถยนต์สำเร็จรูป 1,188,515 คัน ลดลง 1.36% มูลค่า 631,845.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% เครื่องยนต์ 43,717.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.59% ชิ้นส่วน 186,980.36 ล้านบาท ลดลง 3.08% อะไหล่ 29,316.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.92 รวมส่งออกรถยนต์ปี 2559 มีมูลค่า 891,859.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.99%

รถจักรยานยนต์เดือน ธ.ค. ส่งออก 98,465 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 6.22% มูลค่า 4,777.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.94% ชิ้นส่วน 294.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.18% อะไหล่ 90.26 ล้านบาท ลดลง 1.8% รวมมูลค่าทั้งหมด 5,161.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.64% และรวมทั้งปี 52,574.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น2.7% เมื่อรวมการส่งออกสินค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งปี 2559 มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 944,434.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8%

ตั้งเป้าผลิตปีนี้ 2 ล้านคัน

สำหรับปีนี้ ส.อ.ท.ประมาณการผลิตรถยนต์ 2,000,000 คัน เพิ่มขึ้น 2.86% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 1,200,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 800,000 คัน เนื่องจากเห็นว่า ปัจจัยลบหลายอย่างเริ่มคลี่คลาย ทั้งภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการที่มีรถใหม่เปิดตัวจำนวนมากตั้งแต่ช่วงต้นปี ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น

นายอันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มั่นใจว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 5% เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังได้แรงหนุนจากลูกค้ารถคันแรกที่ถือครองครบกำหนด 5 ปีที่คาดว่า จะมีบางส่วนเริ่มซื้อรถคันใหม่ในปีนี้

นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่อยู่ในสถานการณ์ที่ดี โดยปีที่ผ่านมา เติบโต 7% เป็นผลจากการกระตุ้นของภาครัฐในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงภาวะภัยแล้งที่ประเทศไทยประสบจากวิกฤติการณ์เอลนีโญมาหลายปีติดต่อกัน ได้เริ่มคลี่คลายเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้ตามปกติ ในขณะที่พืชผลทางการเกษตรที่อิงกับราคาเชื้อเพลิง เช่น ยางพารา เป็นต้น เริ่มกระเตื้อง และเชื่อว่า จะผลักดันให้ตลาดปีนี้ขยายตัวเช่นกัน