ศึกชิง'ไอเฟค'ระอุ 25ม.ค.นี้ผู้ถือหุ้นโหวตชี้ชะตา

ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ส่งผลกระทบต่อบริษัท ต้องเผชิญปัญหาผิดนัดชำระหนี้ระยะสั้น หรือตั๋วบีอีเกือบ 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังลุกลามทำให้การบริหารต้องหยุดชะงัก ผลจากคณะกรรมการบริษัทไม่ครบตามจำนวนที่กฏหมายกำหนด

ดังนั้น วันที่ 25 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ถือว่าเป็นวันชี้ชะตา เนื่องจากกลุ่มนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ไอเฟค ได้ยื่นขอให้เปิดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อใช้เวทีนี้ พิจารณาเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ เข้าบริหารงาน และแก้ไขปัญหาหนี้สินที่กำลังจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เป้าหมายหวังช่วงชิงอำนาจและตำแหน่งการบริหารงานของบริษัทกลับมาอยู่ในขั้วอำนาจของตนเอง

โดย กลุ่มนายสิทธิชัย เตรียมเปิดตัวกรรมการชุดใหม่ โดยมี นายทวิช เตชะนาวากุล เป็นแกนนำ และมีฐานะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของไอเฟค โดยจะเปิดรายชื่อกรรมการใหม่ทั้งหมดในวันที่ 20 ม.ค.นี้ รวมทั้งจะเสนอแผนการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากเจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น ในวันที่ 25ม.ค.นี้

ขณะเดียวกัน กลุ่มวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธาน บริษท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็ไม่หยุดนิ่งเช่นกัน พร้อมต่อสู้บนเวทีที่ประชุมผู้ถือหุ้นเช่นกัน โดยประกาศรายชื่อตัวแทนกลุ่ม ที่เข้าช่วงชิงเพื่อนั่งกรรมการในไอเฟค ประกอบด้วย นายพีรธัช สุขพงษ์, นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ,นายสุเมธ สุทธภักติ,นายพิชญะ อุทัยรัตน์, นายธวัช ไทรราหู 

นายสิทธิชัย กล่าวว่า การประชุมวันที่ 25 ม.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยควรไปใช้สิทธิในการโหวตเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และการตัดสินใจว่าจะเลือกคณะกรรมการชุดใดขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเชื่อมั่นว่า กลุ่มใดจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ และเหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นว่า กรรมการชุดไหนน่าจะมีโอกาสแก้ไขปัญหาได้ และสถาบันการเงินจะให้ความเชื่อมั่นกลุ่มใดมากกว่ากัน

“เชื่อว่ากลุ่มคุณทวิช จะเสนอชื่อคณะกรรมการที่ได้รับความเชื่อน่าถือ และสถาบันการเงินมั่นใจ ดังนั้นผู้ถือหุ้นรายย่อยควรมาร่วมตัดสินในการประชุมครั้งนี้”

ขณะที่ นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนตัวได้เตรียมแผนแก้ปัญหาหนี้สิน ที่ผู้บริหารชุดเก่าสร้างเอาไว้แล้ว ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 

เบื้องต้นมีแผนที่จะขายโรงแรมดาราเทวี มูลค่าราว 5 พันล้านบาท ซึ่งสามารถชำระหนี้ระยะสั้นได้ทั้งหมดอยู่แล้ว จากนั้นจะใช้เงินสดที่ได้จากโรงไฟฟ้าทดแทนทั้งหมด มาเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการต่อยอดขยายธุรกิจต่อไป

“ผมจะเปิดเผยแผนทั้งหมดในวันประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อไม่ให้ขัดต่อข้อกฎหมายใดๆ และสิ่งที่ผมจะย้ำคือ จะไม่ขายโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ ตามที่กลุ่มผู้บริหารเก่าพยายามทำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ดีอยู่แล้ว หากขายก็จะเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้น หรือไม่”

นายศุภกร แย้มงามเหลือ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ไอเฟค กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทดำเนินธุรกรรมใดๆ ไม่ได้ จนกว่าจะมีกรรมการบริหารชุดใหม่ แต่ก็พยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่างตามที่กฎหมายเอื้ออำนวย