โหมโรง 'ออสเตรเลียน โอเพน' 'แกรนด์สแลม' แรก 2017

โหมโรง 'ออสเตรเลียน โอเพน' 'แกรนด์สแลม' แรก 2017

หลังพักเบรคไปได้ราวเดือนเศษ ฤดูกาลใหม่ของวงการเทนนิสระดับโลก ก็ได้ฤกษ์เปิดฉาก

อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยแกรนด์สแลมแรกของปี 2017 กับ ออสเตรเลียน โอเพน ครั้งที่ 105 ซึ่งจะเริ่มแข่งขันกันตั้งแต่วันนี้ (16 ม.ค.) ไปจนถึงวันที่ 29 ม.ค. พร้อมประเด็นมากมาย ที่ทำให้รายการนี้เป็นที่สนใจของคนในวงการและแฟนกีฬาทั่วโลก

ยักษ์ใหญ่คืนสังเวียน

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของรายการ คือการหวนคืนวงการของสองสุดยอดนักเทนนิสชาย โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล

เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 17 รายการ ยืนหยัดอยู่ในวงการมานานกว่าทศวรรษ และได้รับการยกย่องในฐานะ “บิ๊กโฟร์” ร่วมกับ นาดาล, โนวัค ยอโควิช และ แอนดี มาร์รีย์

อย่างไรก็ดี ด้วยสังขารที่ร่วงโรยลงไป ทำให้ เฟเดอเรอร์ ไม่ได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่เลยในช่วง 3 ปีหลังสุด แม้จะผ่านเข้าชิงถึง 3 หนก็ตาม

ขณะที่ในปี 2016 รายการสุดท้าย ที่สุดยอดนักหวดชาวสวิสลงเล่น คือเกมรอบรองชนะเลิศ วิมเบิลดัน ที่เจ้าตัวฝืนเล่นทั้งที่เจ็บขาซ้าย ก่อนพ่ายต่อ มิลอส ราโอนิช 2-3 เซต เมื่อ 7 ก.ค. และจำต้องถอนตัวจาก โอลิมปิก และพักยาวจนจบฤดูกาลในที่สุด จนตกลงมาเป็นมืออันดับ 17 ของโลกในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจ “ปิดเทอม” ก่อนกำหนด เป็นเพราะนักหวดวัย 35 ปี ต้องการเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด สำหรับฤดูกาล 2017 นั่นเอง

นอกจาก เฟเดอเรอร์ แล้ว อีกรายที่เตรียมกลับมาลงสนามหลังพักไปนานเช่นกัน คือ ราฟาเอล นาดาล เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 14 สมัย ชาวสเปน ที่ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บข้อมือซ้ายตลอดปีที่ผ่านมา จนต้องถอนตัวจากรายการถนัดอย่าง เฟรนช์ โอเพน และพักไปยาวตั้งแต่ เดือน ต.ค. ก่อนจะกลับมาประเดิมปี 2017 ด้วยการผ่านเข้ารอบ 8 คนในศึก “บริสเบน อินเตอร์เนชันแนล” เมื่อสัปดาห์ก่อน

มาร์รีย์ v ยอโควิช

ศึกชิงตำแหน่งมือหนึ่งโลกที่เข้มข้นต่อเนื่องมาจากปลายฤดูกาลก่อน จะยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์จนถึงรายการนี้ หลัง แอนดี มาร์รีย์ (12,560 คะแนน) แซง โนวัค ยอโควิช (11,780 คะแนน) ขึ้นเป็นมือหนึ่งโลกคนใหม่ได้สำเร็จ พร้อมการันตีตำแหน่งดังกล่าว ด้วยแชมป์ บาร์เคลย์ส เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่ลอนดอน เมื่อเดือนพ.ย.

อย่างไรก็ดี สถานะของ มาร์รีย์ ก็ยังไม่มั่นคง เนื่องจากช่องว่างกับ ยอโควิช นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และนักหวดชาวเซิร์บ น่าจะกลับมามีแรงจูงใจอีกครั้ง หลังแผ่วไปตั้งแต่จบ เฟรนช์ โอเพน กลางปีที่แล้ว

และสถิติหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ มาร์รีย์ ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลย แม้จะผ่านเข้าชิงถึง 5 ครั้งในช่วง 7 ปีหลังสุดก็ตาม โดยในปีล่าสุดนั้น เจ้าตัวก็แพ้ให้กับ ยอโควิช ในนัดชิงชนะเลิศนั่นเอง

กลับกัน นี่คือรายการที่ ยอโควิช ถนัดที่สุด ด้วยตำแหน่งแชมป์ 6 สมัย ใน 9 ปี โดยเฉพาะช่วง 2 ปีหลังสุด ที่สำคัญ การจับสลากแบ่งสายในปีนี้ เจ้าตัวจะแทบไม่เจองานหนักเลยจนกว่าจะถึงรอบรองชนะเลิศ

เทนนิสหญิงยุคเปลี่ยนผ่าน

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองเช่นกันคือ ความร่วงโรยของ เซเรนา วิลเลียมส์ อดีตมือหนึ่งหญิงของโลกชาวสหรัฐ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 22 รายการ เทียบเท่าสถิติของ สเตฟฟี กราฟตำนานชาวเยอรมนี

เพราะหลังจากยืนหยัดในวงการมานานกว่าทศวรรษ วิลเลียมส์ วัย 35 ปี ก็ถูกปัญหาบาดเจ็บไหล่ขวา และฟอร์มตกรุมเร้า กระทั่งเสียตำแหน่งมือ 1 ให้กับ อันเจลิค แคร์เบอร์ ชาวเยอรมนี หลังจบศึก ยูเอส โอเพน และถอนตัวไม่ได้เข้าร่วมใน ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ ไฟนอลส์ ช่วงปลายปี

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครกล้าการันตีได้ว่า แคร์เบอร์ ที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม เมื่อปีที่แล้ว ถึง 3 รายการ และได้มาครอง 2 รายการ (ออสเตรเลียน โอเพน กับ ยูเอส โอเพน) จะรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมไว้ได้ต่อไปหรือไม่ เพราะมีตัวอย่างนักเทนนิสหญิงมือหนึ่งโลกคนก่อนๆที่ผลงานแผ่วลงอย่างรวดเร็ว หลังก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ให้เห็นแล้วหลายราย

นอกจากนี้ นักเทนนิสหญิงใน 8 อันดับแรกของโลก ล้วนแต่มีสถิติผลัดกันแพ้ชนะได้ตลอด ทั้ง อักเนียสกา รัดวานสกา, ซิโมนา ฮาเล็ป, แคโรลินา พลิสโควา หรือ โดนิมิกา ชิบุลโควาแชมป์ ดับเบิลยูทีเอ ไฟนอลส์ คนล่าสุด และ การ์บีน มูกูรูซา แชมป์ เฟรนช์โอเพน ปีที่แล้ว

โอกาสของลัก

นอกจากนี้ แฟนเทนนิสชาวไทย ก็ยังต้องส่งใจช่วย ลักษิกา คำขำ นักเทนนิสมือ 1 ของไทย ที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันเป็นสมัยที่ 3 ถัดจากปี 2013 และ 2014 หลังคว้าแชมป์ในรอบเพลย์ออฟ เทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2017 รอบเอเชีย-แปซิฟิก ไวลด์การ์ด เพลย์ออฟ ที่จีน เมื่อเดือน ธ.ค.

ผลงานดีที่สุดของ นักเทนนิสหญิงมือ 180 ของโลก คือการผ่านเข้ารอบ 2 หลังพลิกชนะ เปตรา ควิโตวา จากเช็ก 2-1 เซต 6-2 , 6-1 และ 6-4 ส่วนปีนี้ “ลัก” จะต้องพบกับ นาโอมิ โอซากะของญี่ปุ่นในรอบแรก โดยหากผ่านไปได้จะพบผู้ชนะในคู่ระหว่าง โจฮันนา คอนตา มือ 9 จากอังกฤษ หรือ เคิร์สเท็น ฟลิปเกนส์ จากเบลเยียมต่อไป