'รองปลัดยธ.'ชี้ครูแพะได้เงินเยียวยา1.6แสนบาท

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสิทธิในการได้รับการเยียวยาของประชาชน กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโครต อดีตครูจังหวัดสกลนคร ว่า ปัจจุบันมีกฎหมายที่ประชาชนควรรู้เพราะถือเป็นสิทธิที่สามารถเข้าถึงได้กรณีที่ตกเป็นผู้เสียหาย จำเลยในคดีอาญา หรือกรณีถูกควบคุมตัวระหว่างการสอบสวนแต่ต่อมาปรากฏว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด และกรณีถูกคุมขังเกินกำหนดโทษ ประกอบด้วยพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งให้สิทธิผู้เสียหายและจำเลยรในคดีอาญา หรือแพะ และพ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม เกี่ยวกับประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิด ซึ่งครอบคลุมความช่วยเหลือกลุ่มที่ยังไม่ตกเป็นจำเลยหรือยังไม่ถูกฟ้องคดี แต่ถูกคุมขังระหว่างการสอบสวน หรือกรณีที่จำคุกเกินโทษที่ได้รับจริง ซึ่งปลายปีที่ผ่านมาประกาศกองทุนยุติธรรมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯช่วยเหลือมีผลบังคับใช้แล้ว ยึดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ ที่เพิ่งมีการปรับแก้ค่าประโยชน์ทำมาหาได้ระหว่างถูกดำเนินคดีจากเดิมไม่เกินวันละ 200 บาท เป็นการยึดตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดประกอบการ

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นกับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่ตกเป็นแพะในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งอยู่ระหว่างรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ต้องรอให้มีคำพิพากษาจากศาลก่อน เบื้องต้นหากคำนวณตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ กรณีดังกล่าวจะได้รับการเยียวยาตามหลักเกณฑ์ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ เช่น ในส่วนค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ระหว่างถูกคุมขังเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน หรือคิดเป็น 548 วัน เมื่อคำนวณจากค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท จะเป็นเงินประมาณ 164,400 บาท อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ให้การเยียวยาตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ส่วนการช่วยให้กลับเข้ารับราชการเป็นอำนาจของกระทรวงศึกษาธิการ

สำหรับหลักเกณฑ์การเยียวยาตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ ที่ปรับปรุงใหม่กรณีจำเลยในคดีอาญาที่ศาลพิพากษาแล้วว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด หรือแพะ กรณีทั่วไปมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากการถูกคุมขังวันละ 500 วัน ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้จ่ายตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในจังหวัดที่ทำงาน ค่ารักษาพยาบาลตามจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสภาพจิตใจจ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ค่าทนายจ่ายตามจริงไม่เกินอัตราตามกฎกระทรวง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท กรณีเสียชีวิตได้ค่าทดแทน 100,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูไม่เกิน 40,000 บาท และค่าความเสียหายอื่นไม่เกิน 40,000 บาท โดยผู้ร้องต้องยื่นคำขอภายใน1 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาให้ถึงที่สุด

ส่วนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนฯกรณีถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีโดยไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด หรือถูกขังเกินกำหนดโทษ มีสิทธิยื่นขอรับเงินดังนี้ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลตามจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจตามจริงแต่ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ระหว่างที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ปกติ ให้จ่ายตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่ประกอบการ เงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดฯกรณีถึงแก่ความตายไม่เกิน 100,000 บาท และเงินช่วยเหลือเยียวยาอื่น