คาด 'ทุนนอก' ดันหุ้นไทย
นักวิเคราะห์คาด "หุ้นไทย" ปรับบวกรับเงินทุนเคลื่อนย้าย หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" แถลงการณ์นโยบายเป็นทางการครั้งแรก
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ จาก การแถลงข่าวของว่าที่ประธานาธิบดี ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นครั้งแรก ในคืนที่ผ่านมา นโยบายที่ใช้หาเสียงหลายๆตัวนำมาใช้จริง เช่น นโยบายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทยา (ราคายา) นโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯตั้งโรงงานในประเทศ และการตอบโต้การค้ากับคู่ค้า(จีน) ซึ่งนโยบายหลังนี้มีผลต่อประเทศอื่น ตามที่เคยเป็นกังวลกัน แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป-futures ของตลาดหุ้นเอเซีย เปลี่ยนแปลงไม่มาก
โดยค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง น่าจะมาจาก นโยบายที่เกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเองยังไม่ชัดเจน รวมทั้งผลต่อระบบเศรษฐกิจจะมากน้อยขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า เป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบ ในคืนที่ผ่านมา (น้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $52.25 เหรียญ)
ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ไม่รวมน้ำมันและทองคำ) สินค้าในกลุ่มวัตถุดิบยังได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว และการลดกำลังการผลิตของจีน ขณะที่สินค้าเกษตร ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นไทยโดย คือ ยางพาราและปาล์ม ยังได้อานิสงค์จากน้ำท่วมในภาคใต้ของไทย
"แม้ตลาดจะมีความชัดเจนขึ้นมาบ้างต่อนโยบายของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ แต่นโยบายการค้าต่างประเทศนั้น จะทำให้มีการใช้นโยบายกีดกันทางการค้ามากขึ้น (ขึ้นภาษีนำเข้า) ซึ่งจะทำให้หุ้นที่อิงกับเรื่องส่งออก เกิดความไม่แน่นอน นักลงทุนอาจต้องการเวลาเพื่อพินิจวิเคราะห์นโยบายของนายทรัมป์ มากกว่านี้ ณ เวลานี้ คงต้องไปดูว่าตลาดหุ้นเอเซีย จะตอบรับอย่างไร หรือกังวลตามที่เราคิดไว้หรือไม่"
ดังนั้นตลาดหุ้นไทย น่าจะยังเป็นบวกจาก เงินทุนเคลื่อนย้าย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังมีแนวโน้มดี (ส่วนใหญ่) และการเข้ามาเล่นหุ้นที่ยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ดัชนี ยังเกาะจุดสูงสุดเดินที่ 1,575 มาหลายวัน หากหลุดจากจุดนี้ไป ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดได้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คาดว่าตลาดยังเป็นขาขึ้น ทำให้การพักตัวมักจะใช้เวลาไม่นาน หุ้นกลุ่มนำตลาดจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ (ที่กองทุนฯ+ นักลงทุนต่างประเทศสนใจ) และหุ้นบางตัวในสายสินค้าโภคภัณฑ์ จังหวะเข้าซื้อในวันนี้ รอดูตลาดหุ้นเอเชีย ถ้าไม่ลบจากนโยบายของนาย มรัมป์ก็จะไม่ดึงให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง หรืออาจรอให้ผ่านจุดสูงสุดเดิมที่ 1,575 จุด ขึ้นไปก่อนก็ได้ ในการเก็งกำไรช่วงสั้น