วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 11 มกราคม 2560

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 11 มกราคม 2560

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังปริมาณการส่งออกอิรักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ออีกราวร้อยละ 2 หลังดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (U.S. Dollar Index) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดเริ่มมีความไม่แน่ใจต่อข้อตกลงในความร่วมมือการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปคและนอกโอเปคที่ได้ข้อสรุปในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559

- อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ลำดับที่ 2 ในกลุ่มโอเปค เปิดเผยว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Basra ในเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์ในเดือนมกราคมที่ 3.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีทิศทางขัดแย้งกับข้อตกลงที่อิรักเคยประกาศไว้ในการประชุมโอเปคว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงได้ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน

- หลังตลาดปิดทำการซื้อขาย สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ได้ออกมารายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 484.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคงคลังทุกชนิดยังปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ขยับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ในปี 2561 ขึ้นเป็น 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560 พร้อมปรับการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มเป็น 20.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 19.85 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน

+ อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียได้ออกมา เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมกราคมของประเทศจะลดลง 486,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.058 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นการปรับลดราวร้อยละ 4.61 จากระดับ 10.544 ล้านบาร์เรลต่อวันที่เคยผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2559 นอกจากนี้ ซาอุดิอารัมโกยังได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มมีการเจรจากับลูกค้าทั่วโลกเพื่อหารือเกี่ยวกับการลดการส่งมอบน้ำมันดิบลงราวร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 7 ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกด้วย

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานจีนที่อยู่ในระดับสูง หลังมีการรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินในประเทศจีนปรับตัวขึ้นกว่าร้อยละ 13 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในขณะที่อุปสงค์อ่อนตัวลงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการซื้อน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับลดโควต้าการนำเข้าน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปในประเทศจีนไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากกำลังการผลิตภายในประเทศมีมากเพียงพอต่อความต้องการ


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

           ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- จับตาการปรับลดปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคซึ่งมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 60 เป็นต้นไป โดยล่าสุดซาอุดิอาระเบีย และ อิหร่านให้ความเชื่อมั่นว่าข้อตกลงจะบรรลุผล ในขณะที่คูเวตออกมายืนยันว่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัฐบาลจะปรับลดกำลังการผลิต ส่วนผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคอย่างโอมาน เผยว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิตลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในเดือน มี.ค. 60 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองการประชุมกลุ่มโอเปคในวันที่ 21 – 22 ม.ค. 60 ณ กรุงเวียนนา

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันที่เชื่อมกับแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 0.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ El Feel กำลังการผลิต 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับเกือบ 0.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 0.60 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า

                                           -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999