สวนป่าแห่งความสุข

สวนป่าแห่งความสุข

ใครจะเชื่อว่า เขาหัวโลนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าคาจะกลายมาเป็น “สวนป่า” ที่เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ของสรรพสัตว์ได้อีกครั้ง

ไม่ต้องให้ใครเชื่อ เพราะเจ้าของสวนเองก็ยังนึกไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้


สวนชัชนาถ เป็นชื่อที่ฟังดูเรียบๆ ง่ายๆ ถ้าไม่รู้จักก็อาจจะคิดว่าเป็นสวนผัก สวนผลไม้ธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้ว สวนชัชนาถเป็นสวนป่าเอกชนที่เรียกว่า สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสานของไทยเลยทีเดียว


ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ชัชนาถ เทพธรานนท์ เจ้าของ “สวนชัชนาถ” เล่าให้ฟังว่า ราวปี 2533 อาจารย์ชัชนาถและสามี (ศ.ดร. ยอดหทัย เทพธรานนท์) ได้ซื้อที่ดินบริเวณตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย จำนวน 33 ไร่ เพื่อปลูกป่า จนชาวบ้านแถบนั้นหาว่า “บ้า” เพราะการปลูกป่าไม่ได้อยู่ในความคิดของผู้คนในยุคนั้นเลย


“ตอนไปซื้อ ชาวบ้านเขาไม่เข้าใจ เพราะทุกคนเขาจะซื้อที่เพื่อเพาะปลูก เขาก็จะหาที่เรียบๆ ไถง่ายอะไรง่าย แต่เราไปซื้อที่เป็นเขาหัวโล้น มีแต่หญ้าคา ไม่มีต้นไม้ ชาวบ้านเขาไม่ชอบแบบนี้เพราะมันเพาะปลูกลำบาก ตอนนั้นที่เราไปซื้อในดินไม่มีธาตุอาหารเหลือแล้ว เพราะก่อนนี้ชาวบ้านเขาทำไร่ข้าวโพด ทำแล้วก็เผา ทำแล้วก็เผา แร่ธาตุเลยไม่มี แต่เราเห็นว่าวิวสวย และต้องการปลูกต้นไม้เพื่อให้เป็นป่า จึงซื้อที่ดินตรงนั้นไว้ แล้วจ้างชาวบ้านมาปลูกต้นไม้ให้เรา”


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟื้นชีวิตป่าไม้ให้กลับมาอีกครั้ง เพราะด้วยสภาพที่ดินที่ขาดธาตุอาหารอย่างหนัก กอปรกับสภาพอากาศที่โหดร้ายรุนแรง ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ต้องตายไปไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น ทว่า อาจารย์ชัชนาถ และ ดร.ยอดหทัย ก็ไม่ย่อท้อ พยายามสู้อย่างเต็มที่ ปลูกสัก มะค่า ประดู่ สนสามใบ ฯลฯ จนในที่สุดป่าผืนงามในฝันก็เป็นจริง


“เป็นป่าเลยแหละ จนตอนหลังสยองไปหมด เพราะมีเสือเข้าไปอยู่ คือวันดีคืนดีคนเฝ้าสวนของเราไปเก็บเห็ด เขาไปเห็นรอยเท้าเสือและได้ยินเสียง เขาก็ไปเรียกป่าไม้มาดู โอ...ใช่ รอยเสือตัวโตด้วย เป็นเสือโคร่ง ทีนี้ก็ไปเรียกทหารมาช่วยกันตามหา ก็เดินถือปืนเข้าป่ากันไปเลย แต่พอไปเจอเห็ดโคนเท่านั้น ทิ้งปืนกันหมดแล้วมาเก็บเห็ดโคน(หัวเราะ) แต่ในที่สุดมันก็ไป ตอนหลังเลยดูแลไม่ให้รกมากเกินไป”


นอกจากเสือก็ยังมีสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ เข้ามาอิงอาศัย ที่สำคัญ สวนป่าแห่งนี้ยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นเริ่มเข้าใจความสำคัญของการปลูกป่า และพยายามดูแลรักษาสภาพพื้นที่ป่าที่มีอยู่ให้ดีที่สุด


“ภูเรือมันเป็นทะเลภูเขา สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ปกติหน้าหนาวอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 8 องศา อากาศดีมาก แต่หน้าสวยของเขาคือปปลายกุมภาฯต้นมีนาฯ เป็นช่วงที่ดอกไม้ป่า กล้วยไม้ป่าออกดอกเยอะมาก สวยมาก


เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หน้าร้อนกลางเดือนมีนาฯ แดดเปรี้ยงๆ เลยนะแต่มีลูกเห็บตก ตกจนกระทั่ง... คือเราไม่ได้ไปอยู่ที่นั่นหรอก เราเห็นภาพในหนังสือพิมพ์ เขาถ่ายรูปติดชื่อสวนเราด้วย นึกว่าอยู่เมืองนอก เพราะมันขาวโพลนไปหมดเลย ทีนี้มันแช่อยู่ 2 วัน ต้นสนปกติจะไม่มีรากแก้ว เขามีแต่รากฝอย เขาก็ถูกฟรีซตายเป็นพันกว่าต้น เราก็ต้องเอาออก เพราะไม่อย่างนั้นจะอันตราย ตอนนี้เลยกลายเป็นป่าโปร่งไป” อาจารย์ชัชนาถเล่าไปหัวเราะไป


ปัจจุบัน สวนชัชนาถมีพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ พื้นที่บางส่วนถูกจัดสรรให้เป็น “ชัชนาถ วู้ดแลนด์” รีสอร์ทขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติผืนใหญ่ โดยยังคงคอนเซ็ปต์ของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติไว้อย่างดีที่สุด ซึ่งเปิดให้บริการเฉพาะฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เท่านั้น


แม้รีสอร์ทจะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเพียง 4 เดือนต่อปี แต่สวนชัชนาถแห่งนี้ มีหน้าที่ผลิตความสุขให้กับทุกชีวิตตลอดเวลา ถือเป็นสวนป่าที่สร้างความสดใสเบิกบานให้กับโลกใบนี้ได้จริงๆ