'แสงเทียนแห่งสยาม' คืนความสุขให้ประชาชน

'แสงเทียนแห่งสยาม' คืนความสุขให้ประชาชน

รัฐบาลมอบของขวัญปีใหม่ “แสงเทียนแห่งสยาม” คืนความสุขให้ประชาชน

 รัฐบาลมอบของขวัญปีใหม่คืนความสุขให้ประชาชน จัดกิจกรรม“แสงเทียนแห่งสยาม สวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธฯ”เชิญชวนประชาชนร่วมงานเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมจุดเทียน“แสงเทียนแห่งสยาม” ,ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10รัชกาล ,กราบบูชาพระพุทธปฏิมาในพระมหากรุณาพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า รวมถึงการแสดงนิทรรศการ ศิลปวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายวีระ โรจน์พจนรัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.),นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย,พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวการจัดงาน“แสงเทียนแห่งสยาม สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธถวายเป็นพระราชกุศลพุทธศักราช 2560”

พล.อ.ธนะศักดิ์ ประธานแถลงข่าว กล่าวว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่13 ธันวาคม 2559 มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่พุทธศักราช 2560 ดังนี้ 1.กิจกรรมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร 2.สวดมนต์ข้ามปีทุกศาสนา 3.การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย 4.การจัดกิจกรรมนับถอยหลัง(Countdown)เข้าสู่ปีใหม่พ.ศ.2560

 ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีประชาชนร่วมสวดมนต์กว่า 18 ล้านคน และปีนี้หน่วยงานต่างๆ อาทิ วธ. สำนักนายกรัฐมนตรี ก.มหาดไทย ก.การท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานครและภาคเอกชน องค์กรทางศาสนาและชาวพุทธทั้งในประเทศและทั่วโลกร่วมกันจัดการสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 โดยจะจัดกิจรรม ณ วัด สนามหลวงและสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่นอกวัด อีกทั้ง ในเวลา 21.00 น.จะมีการถวายความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยยืนสงบนิ่ง 89 วินาที และเวลา 23.45 น.จะสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า นะโม 3 จบ และบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย(อิติปิโสภะคะวา)โดยจะเป็นการสวดมนต์ให้แก่ประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนและผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

ต่อมา เวลา 24.00 น. ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง พระสงฆ์และประชาชนสวดมนต์ข้ามปีด้วยบทชยันโต และร้องเพลง“พรปีใหม่”และ“เพลงสรรเสริญพระบารมี”พร้อมฉายพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร และวันที่ 1 มกราคม 2560 เวลา 00.09 น.จะมีการจุดเทียน“แสงเทียนแห่งสยาม” พระสงฆ์และประชาชนสวดมนต์รับปีใหม่ บทชัยมงคลคาถา(พาหุง)และเวลา 07.00 น.มีพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อต้อนรับปีพุทธศักราช 2560

นายวีระ กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ถวายเป็นพระราชกุศล พุทธศักราช 2560 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ถึง วันที่1มกราคม 2560 มีการจัดกิจกรรมในวัดและนอกวัด และจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 29-30 ธันวาคม 2559 และงานแสงเทียนแห่งสยาม ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และการจัดทำ สปอตวิทยุ โทรทัศน์ วีดิทัศน์และคู่มือบทสวดมนต์ข้ามปีอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับจำนวนวัดและสถานที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ ในปี 2560 มีวัดในกรุงเทพมหานคร 395 แห่ง และวัดในต่างจังหวัด 76 จังหวัด 24,189 แห่ง รวมทั่วประเทศ 24,584แห่ง และยังจัดสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน 15 จังหวัด รวมทั้งสวดมนต์ข้ามปีในวัดไทยในต่างประเทศ 504 วัด อีกทั้งยังสวดมนต์ข้ามปีตามหลักของศาสนาคริสต์,พราหมณ์ - ฮินดู ซิกข์ ส่วนกิจกรรม“ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล”เป็นวัดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมล มังคลารามราชวรมหาวิหาร,วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร,วัดราชโอรสาราม,วัดราชประดิษฐ สถิตมหาสีมาราม,วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม,วัดบวรนิเวศวิหาร,วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร,วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิต เขตบางนา ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559 - 2 มกราคม 2560 โดยจัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรับ - ส่ง พร้อมทั้งจัดทำหนังสือไหว้พระ 10 วัด 10 รัชกาล และแผ่นพับไหว้พระ 10 วัด เพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย

สำหรับกิจกรรม“กราบบูชาพระพุทธปฏิมาในพระมหากรุณาพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า”วันที่ 26 ธันวาคม 2559 - 31 มกราคม 2560 ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยนำพระพุทธรูปสำคัญแสดงปางต่างๆ จำนวน 10 องค์ ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์,พระห้ามสมุทรงพระพุทธรูปปางจงกรมแก้ว,พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกกรกิริยา,พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร,หลวงพ่อนาก ปางสมาธิเพชร,พระพุทธรูปปางขอฝน,พระพุทธรูปปางลองหนาว,พระพุทธรูปปางสมาธิ,พระพุทธรูป ปางห้ามญาติ(ปางประทานอภัย) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางที่ประชาชนไม่ค่อยได้มีโอกาสสักการบูชา นำออกให้กราบบูชาเพื่อความเป็นมงคล

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า วธ.ยังมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ การเปิดแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ทุกแห่ง ทั่วประเทศให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เช่น การทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะโดยกระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมทำความสะอาด อุทยานประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์และแหล่งวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม มีการจัดแสดงทุกจังหวัดทั่วประเทศ โรงละคร วังหน้า วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลป 

โดยให้ประชาชนเข้าชมฟรี และนิทรรศการ“อัครศิลปิน เหนือเกล้า”พลังศิลปินรวมใจ แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 5 ธันวาคม 2559 -27 มกราคม 2560 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และวธ.ได้จัดทำหนังสือ“เทิด ๙ ปกเกศ ๗๐ คุณธรรมนำประชา”ที่ได้รวบรวมพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท ด้านคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ ซื่อตรง วินัย รับผิดชอบ จิตอาสา และพอเพียง สำหรับประชาชนนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยจะแจกหนังสือให้แก่ประชาชนรวมทั้งเผยแพร่และเปิดให้ประชาชนเข้ามาดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์www.moralcenter.or.th