MORNING CALL ACTION NOTES (20 ธ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (20 ธ.ค.59)

Domestic Play

ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวแคบด้วย Volume ซื้อ/ขายที่เบาบาง เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ประกอบกับความกังวล Fund Flow ไหลออกตามทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้ SET ปิดที่ 1,522.40 จุด (-0.11 จุด) Vol. 3.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +88 ลบ. TFEX Net +5,581 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยล่าสุด 53.1 US/Barrel หลังเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตอบรับสุนทรพจน์นางเยลเลนที่ว่า ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี โดยอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่การจ้างงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

+ แหล่งข่าวเผย"ดอยซ์แบงก์"อาจบรรลุข้อตกลงเจรจาลดค่าปรับกับสหรัฐในวันพุธนี้ (ทั้งนี้สหรัฐฯเรียกค่าปรับที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์)

+ ICAO ให้ไทยยื่นตรวจสอบการบินซ้ำภายใน 30 มิ.ย.นี้ "กพท."เผยแก้ปัญหาคืบหน้าแล้วกว่า 75%

+ การทำ Window dressing และ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

+/ - Foreign พลิกเป็น Net Buy เล็กน้อย อย่างไรก็ตามยอดสะสมตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ยังเป็น Net Sell 1.7 พันลบ.

- การปรับพอร์ทของนลท.ต่างชาติก่อนช่วงวันหยุดยาวคริสมาส

- การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED กระทบต่อกระแส Fund Flow

*** 21 ธ.ค. ติดตามการประชุมกนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ย 1.5%)

ตลาดหุ้นไทยยังคงได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง รวมถึงแรงซื้อ LTF RMF ช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามความกังวลนลท.ต่างชาติปรับพอร์ทก่อนช่วงคริสต์มาสยังคงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,510 - 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง

- กลุ่ม Domestic Play ค้าปลีก ท่องเที่ยว และโรงแรมได้อานิสงส์มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวและช็อปช่วยชาติช่วงปลายปี

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.8 Bath/USD. แนะนำ CPF KCE

- หุ้นเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ GLOBAL KKP PTG SPRC THAI และ SET100 KAMART SCN SUPER SPRC TKN BIG THANI VIBHA มีผล 1 ม.ค. 60

Analyst Meeting

BSR (BTS-STEC-RATCH) ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง

- BSR (กิจการร่วมค้าถือหุ้นโดย BTS 75%, STEC15% และRATCH 10%) ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองในรูปแบบ PPP net cost (รับความเสี่ยงจำนวนผู้โดยสาร) มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท โดย STEC เป็นผู้ก่อสร้าง BTSC (บริษัทย่อย BTS) เป็นผู้เดินรถ และRATCH เป็นผู้ดูแลระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า

- BSR มีแผนจะสร้างส่วนต่อขยายจากสายสีชมพูเข้าอิมแพคเมืองทองธานีระยะทาง 2.8 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายจากสายสีเหลืองไปเชื่อมสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยายเป็นระยะทาง 2.6 กิโลเมตร

- ฝ่ายวิจัยประเมินว่า BTS VGI และ STEC เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักเนื่องจาก BTS มีที่ดินราว 800 ไร่บริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าเกิดใหม่ทั้งหมด VGI มีโอกาสได้บริหารโฆษณารถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง และ STEC ได้งานก่อสร้างเพิ่มอีก 4 หมื่นล้าน

หุ้นมีข่าว 

- CK (ราคาปิด 31 แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 38) ลุยประมูลงานทุกโครงการในปีหน้า มูลค่ากว่า 4.5 แสนล้านบาท ตั้งเป้าได้รับงานใหม่ 20-25% เติมแบ็กล็อกพุ่ง 1.26 แสนล้านบาท ขณะที่งานรอเซ็นเพียบ วางเป้ารายได้ปีหน้าไม่ต่ำกว่า 3.5-3.8 หมื่นล้านบาท ส่องฐานทุนแข็งแกร่ง พร้อมสยายปีกประเทศเพื่อนบ้าน (ที่มาทันหุ้น)

- DRACO เผย Chin-Poon ผู้ถือหุ้นใหญ่จะทำเทนเดอร์ที่ราคาหุ้นละ 5.07 บาทเพื่อเพิกถอนหุ้นจากตลท.

- ANAN ตั้งบริษัทร่วมทุนกลุ่ม"มิตซุย ฟูโดซัง"พัฒนาคอนโดฯ อีก 2 โครงการ เปิดตัวปี 60

  ความเห็น : เป็นธุรกรรมปกติในการพัฒนาคอนโดฯร่วมกับพันธมิตรในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการโดย ANAN ถือหุ้น 51% พันธมิตรถือหุ้น 49% ปัจจุบันมีบริษัทร่วมทุนพัฒนาคอนโดฯแล้วรวม 7 โครงการมียอดขายแล้วราว 8.7 พันล้านบาท ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างจัดทำประมาณการและบทวิเคราะห์

- EIC ขายหุ้น ST เป็นเงิน 18 ลบ.ให้"รักหนึ่ง พหลโยธิน"หวังลดปัญหาในงบการเงิน

- SAPPE ขายทั้งหมด 51% ใน PT. Sappe Indonesia มูลค่า 82.03 ลบ.,บุ๊คกำไรพิเศษใน Q4/59

- APCS เผยบ.ย่อยลงนามรับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในจ.สระแก้ว มูลค่า 195 ลบ.

- บอร์ด EPCO ไฟเขียวบริษัทย่อย "EP" เข้าซื้อหุ้น "ทัศน์ศิริ" โรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ 240 MW รองรับแผนดัน EP เข้าตลท.ในปี 60 ขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในไทย-ต่างประเทศ ลั่นเป้าภายในปี 61 กำลังผลิตพุ่ง 600 MW หนุนรายได้-กำไรโต


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +39.65 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,883.06 จุด เพิ่มขึ้น 39.65 จุด หรือ +0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,457.44 จุด เพิ่มขึ้น 20.28 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,262.53 จุด เพิ่มขึ้น 4.46 จุด หรือ +0.20% ขานรับสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าวที่มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยบัลติมอร์เมื่อวานนี้ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.22 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี