ระยะสั้นมีโอกาสซึมขึ้น เลือกหุ้นทำปิดดัชนีสิ้นปี

ระยะสั้นมีโอกาสซึมขึ้น เลือกหุ้นทำปิดดัชนีสิ้นปี

คาดตลาดไม่ไปไหนแต่บรรยากาศการเลือกเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวก

เราคาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวซึมขึ้น จากปริมาณการซื้อขายที่น่าจะจะชะลอตัวลงหลังเข้าสู่ช่วงใกล้หยุดยาว อย่างไรก็ตามแรงขายต่างชาติที่น่าจะชะลอตัวลงในสัปดาห์นี้ ขณะที่ตลาดน่าจะยังคงมีแรงซื้อปลายปีจาก LTF เข้ามาจะเป็นตัวสนับสนุนให้เกิด Window dressing ในหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังปรับขึ้นไม่มากที่สามารถเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่บรรยากาศเช่นนี้เอื้อต่อการผลักดันหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวก รวมทั้ง laggard play ของโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยมีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่: เป้าหมายทำปิดปลายปีTU, CPF, IVL, DTAC*, SCCC* / bond yield ที่ปรับขึ้นBLA*, TIP*, EASTW* / ผ่านจุดที่แย่ที่สุด DTAC*, DEMCO*/ ภาพทางเทคนิคดี DEMCO*, SLP*, TWP*, JMART*, SYNEX*/ โภคภัณฑ์ (เก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน) STA*, TRUBB*, BRR*

(+) กลุ่มบันเทิง กสทช.ประกาศนโยบายปี 2560 ซึ่งมีการช่วยกลุ่มโทรทัศน์ดิจิตอล โดยอาจลดหย่อนให้กับช่องที่เผยแพร่รายการเกี่ยวกับการสวรรคต รวมถึงการอนุญาตยอมให้ผู้ประกอบการผ่อนจ่ายค่าธรรมเนียม (มีดอกเบี้ย) ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อกระแสเงินสด อาจทำให้เกิดแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มนี้ (แต่ให้ระวังผลประกอบการไตรมาส 4/59 โดยรวมแย่)

(-) กลุ่มท่องเที่ยว หลังผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญมีแนวโน้มกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแรงยิ่งกว่าคาด นอกจากการเดินทางที่ลดลงแล้ว ยังกระทบจากราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และค่าเงินบาทที่อ่อนกระทบต่อภาระหนี้สกุลต่างประเทศ อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสซิก้ารายที่ 8 ซึ่งอาจกระทบต่อการเดินทางในภูมิภาคอาจกระทบต่อหุ้นท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มสายการบิน (ระวังการปรับลดมุมมองหุ้นกลุ่มนี้ลง)

ตลท.ประกาศ หุ้นเข้า-ออก SET50: (+) THAI, SPRC, GLOBAL, KKP, PTG / (-) BEC, MTLS, SAWAD, TASCO, TTW // หุ้นเข้า-ออก SET100: (+) BIG, KAMART, SCN, SPRC, SUPER, THANI, TKN, VIBHA GFPT, SCCC/ (-) ANAN, BJCHI, ERW, GL, JWD, SVI, TRC, WORK // โดยมีผลระหว่าง 1 ม.ค.-30 มิ.ย.60

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:   20 ธ.ค. –ยื่นแผนนำเข้า LPG ของผู้ค้าบางราย / 21 ธ.ค. - การปรับลด GDP โดยธปท. 

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : คาดตลาดไม่ไปไหนแต่บรรยากาศการเลือกเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวก แนะนำ เลือกหุ้นที่ยัง laggard,ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี ท่องเที่ยว หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ HANA/ เก็งกำไร DTAC*, TSE*, SGP*

แนวรับ/แนวต้าน : 1510-1515/1530-1540 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

• หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, TU, STEC, DTAC*, PSTC*

• เปิดซองรถไฟฟ้า: UNIQ,BTS, STEC, RATCH, SEAFCO, PYLON/ เจรจาส่วนต่อขยาย: BEM, CK

• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ: กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN, HMPRO / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT

• กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*, BRR*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

หุ้นแนะนำ

• HANA (37.50) : ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าและคำสั่งซื้อจากคู่ขนาดใหญ่ค้าในสหรัฐฯ หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ยัง laggard ในเชิง valuation ซื้อขายที่ PER เพียง xx เท่า ขณะที่หุ้นอื่นในกลุ่มปรับขึ้นไปที่ 16-17x PER ทำให้มีโอกาสถูก re-rated ขึ้น และเรามองมีโอกาสเป็น window dressing target ของนักลงทุนสถาบัน

• DTAC* (40) : ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป ซื้อขายที่เพียง 36% ของ market cap TRUE ในขณะที่มีมูลค่าของลูกค้าหนึ่งราย (EV/Subscriber) ที่ 4,481 บาท ต่ำกว่า TRUE ที่ 13,313 บาท ทั้งที่ยังคงมีลูกค้า 25.7 ล้านราย (TRUE ที่ 22.6 ล้านราย)เรามองมีโอกาสเป็น window dressing target ของนักลงทุนสถาบัน

• TSE* (6.50) : กลับมาเป็น defensive growth หลังประกาศแผนลงทุนไฟฟ้าชีวมวล 22MW (COD ช่วงปี 2561-62) ช่วงปลายก.ย. และรอความชัดเจนแผนลงทุนไฟฟ้าญี่ปุ่น 32.MW ซึ่งคาดเป็นปัจจัยผลักดันราคาที่สำคัญ

• SGP* (15) : การดำเนินงานเข้าสู่ high season ไตรมาส 4 ซึ่งผลการดำเนินงานมักจะดีทั้งที่ไทยและจีน แม้ปีนี้ผลการดำเนินงานจะอ่อนแอ แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ไทยยังสนับสนุนการจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น