MORNING CALL ACTION NOTES (19 ธ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (19 ธ.ค.59)

เลือกเล่นรายตัว

ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่มากระทบ โดยได้รับแรงกดดันจาก Fund Flow ที่ยังไหลออกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์เช่น น้ำตาล ยางพาราและปาล์ม ส่งผลทำให้ SET ปิดที่ 1,522.51 จุด (+2.86จุด) Vol. 4.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,980 ลบ. TFEX Net -389 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 53.3 US/Barrel ตอบรับกลุ่มในและนอกโอเปกจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลง โดยกลุ่มนอกโอเปกจะลดกำลังการผลิตลง 5.58 แสนบาร์เรล/วัน ในขณะที่กลุ่มโอเปกลด 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังกองทัพจีนได้ยึดโดรนใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐฯเดือนพ.ย. -18.7% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต

+/- จีนเผยจะคืนโดรนใต้ทะเลให้สหรัฐด้วยวิธีการที่เหมาะสม

+ หุ้นเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ GLOBAL KKP PTG SPRC THAI และ SET100 KAMART SCN SUPER SPRC TKN BIG THANI VIBHA มีผล 1 ม.ค. 60

+ การทำ Window dressing ในช่วงปลายปี

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

- Foreign เป็น Net Sell ติดต่อกัน 4 วันราว 5.2 พันลบ.

- การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED กระทบต่อกระแส Fund Flow

ตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงหลังกลุ่มในและนอกโอเปกเตรียมลดกำลังการผลิตลง รวมถึงแรงซื้อ LTF RMF ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม Foreign ที่เป็น Net Sell ต่อเนื่องยังคงเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,510 - 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง

- กลุ่มค้าปลีก ได้อานิสงส์มาตรการช็อปช่วยชาติ BJC HMPRO MC SYNEX ROBINS CPN COM7

- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.8 Bath/USD.

หุ้นแนะนำ

PTTEP      ราคาปิด 91.25 ราคาเหมาะสม 86 บาท (อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการเชิงบวก)

- ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 59 และ 60 อยู่ที่ราว 18,559 และ 24,826 ล้านบาทเติบโต 159% และ 34% ตามลำดับเนื่องจากราคาน้ำมันดิบสามารถสร้างฐานได้ในกรอบ 43-53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐานต้นทุนการผลิตลงเนื่องจากบริษัทสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้ดีกว่าคาดซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

- ปัจจัยบวก-ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแตะระดับ 52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 17 เดือน หลังโอเปกมุ่งลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันให้ได้ตามเป้า 

- โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2017 สู่ระดับ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล

หุ้นมีข่าว

- PTT (ราคาปิด 363 แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 372) บอร์ดไฟเขียวแผนลงทุน 5 ปี (60-64) วงเงินรวม 3.38 แสนล้านบาท ลุยธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน-ร่วมทุนและการลงทุนของบริษัทย่อย-ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ผู้บริหารมั่นใจปี 2560 ผลงานโตต่อเนื่อง (ที่มาทันหุ้น)

  ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อ PTT ที่เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (ท่อก๊าซฯและโครงการ LNG) ในปี 60-61 ขึ้น 47% จากแผนปี 59 แต่ปรับลดเงินลงทุนในปี 62-63 ลง 62% จากแผนปี 59 แสดงถึง PTT จะมุ่งเน้นขยายการวางระบบขนส่งท่อก๊าซฯ และ LNG ให้เร็วกว่าแผนเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังโรงงานภาคอีสานและเพิ่มอุปทานจาก LNG นอกจากนี้ได้เน้นลงทุนในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นราว 125% จากแผนงานปี 59 เพื่อเพิ่มการเติบโตของบริษัทในอนาคต

- LPN (ราคาปิด 11 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 9.50 บาท) ราศีจับ! ลุ้นผลงานปี 2560 พลิกฟื้นเด่น หลังจ่อรุกตลาดกลางและบนเต็มสูบ แถมเดินหน้าเปิดของใหม่ 11 โครงการ เสริมรายรับอนาคต

  ความเห็น : ในการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์หลังเปิดเผยงบ Q3/59 ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปี 60 ลดลง 54% เหลือ 1,351 ล้านบาทซึ่งหดตัว 43% จากประมาณการกำไรปี 59 ที่ราว 2,350 ล้านบาทซึ่งหดตัว 3% จากปี 58 โดยลดลง 6% จากประมาณการก่อนหน้า แม้ราคาเหมาะสมจะต่ำกว่าราคาปิดล่าสุด แต่ค่าเฉลี่ย consensus ของ yield ที่สูงราว 7.3% ทำให้เราคงคำแนะนำ “ถือ” รอรับเงินปันผล

- JAS จะลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นที่ซื้อคืน 1.2 พันล้านหุ้น หรือ 16.82% ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5.94 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวม 2.97 พันล้านบาท จากเดิมที่มีจำนวน 7.14 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวม 3.57 พันล้านบาท 

  ความเห็น : การนำหุ้นที่ซื้อคืนมาลดทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วทำให้จำนวนหุ้นลดลง 16.82% และมีผลทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น

- COMAN เด้งรับ รัฐงัดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ทั้งช่าวต่างชาติ-คนไทย เว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าเมือง-เพิ่มค่าลดหย่อนภาษีสำหรับคนชอบเที่ยว-ขยายวันหยุดยาวช่วงปีใหม่แถมยังได้รับอานิสงส์จากช่วงไฮซีผู้บริหารเปิดเผยว่าผู้ประกอบการโรงแรมเรียงคิวติดตั้งโปรแกรมเพียบ มั่นใจผลงาน Q4/59 สดใส รายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มาทันหุ้น)

- SEAFCO ได้งานใหม่อีก 2 โครงการรวมมูลค่า 128.6 ลบ.ใน Q4/59

- EASON ทุ่ม 300 ลบ.ซื้อหุ้น 14.28% ใน"แอดวานซ์ เพาเวอร์ฯ"ขยายธุรกิจสร้าง-บริหารโรงไฟฟ้า

- SAPPE ขายทั้งหมด 51% ใน PT. Sappe Indonesia มูลค่า 82.03 ลบ. แล้วเสร็จในธ.ค.

- SCB-KTB TISCO ตัวเบา นำเงินที่ตั้งสำรองหนี้ฯ "สหวิริยาสตีลฯ" หรือ SSI กลับมาใช้เป็นสำรองทั่วไปในไตรมาส 4/59 ส่งผล Coverage Ratio พุ่ง 157% , 119% และ 121% ตามลำดับ ส่วน NPL ปรับลดวูบ (ข่าวหุ้น)

- ILINK จับมือพันธมิตรคว้างาน กฟภ. มูลค่ารวม 203 ล้านบาท เตรียมลงนามสัญญาจ้างเดือน ม.ค. 60 (ข่าวหุ้น)

- EGCO เผยโรงไฟฟ้าพลังลม"ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม" ขนาด 80 MW จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 16 ธ.ค. (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -8.83 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,843.41 จุด ลดลง 8.83 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,437.16 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,258.07 จุด ลดลง 3.96 จุด หรือ -0.18% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ หลังจากมีรายงานว่า เรือรบของกองทัพจีนได้ยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐร้องเรียนจีนผ่านช่องทางการทูต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนพ.ย.

ตลาดน้ำมัน NYMEX +1.00 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 51.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิต ซึ่งรวมถึงคูเวตและรัสเซีย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดน้ำมันด้วย

ส่องหุ้น

- TWP แนวรับ 6.20 , 6.05 บาท แนวต้าน 6.55 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันอีกทั้งยังมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ผ่านจุดสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.20 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุด 6.05 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขยับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 6.55 บาทต่อไป

- PIMO แนวรับ 2.78-2.76 บาท แนวต้าน 2.84-2.88 , 2.92 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่องและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.78-2.76 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 2.84-2.88 บาท ก่อนผ่านขึ้นไปแถวๆ 2.92 บาทต่อ

- AUCT แนวรับ 10.70-10.50 บาท แนวต้าน 11.20-11.40 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ได้ต่อเนื่องทุกวันและระดับราคาเริ่มขยับออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 10.70-10.50 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ จุดสูงสุดเดิมในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 11.20-11.40 บาทต่อไ