'กลุ่มปตท.'โวการเงินแข็งแกร่งถือเงินสดรวม4แสนล.

'กลุ่มปตท.'โวการเงินแข็งแกร่งถือเงินสดรวม4แสนล.

"กลุ่มปตท." ลั่นสถานะการเงินแข็งแกร่งถือเงินสดในมือรวม 4 แสนล้านบาท พร้อมส่ง "ปตท.สผ." ลุยซื้อกิจการปิโตรเลียมเพิ่ม แม้ราคาน้ำมันขยับขึ้น

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มปตท. ยังคงแผนการซื้อกิจการปิโตรเลียมในต่างประเทศเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงปลายปีนี้ แต่คงไม่ปรับสูงขึ้นมากไปกว่าระดับนี้มากนัก เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยัยังไม่เต็มที่ และแนวโน้มการกลับเข้ามาลงทุนของกลุ่มผู้ผลิต shale oil และ shale gasในสหรัฐ หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปตท.มองว่า ราคาน้ำมันดิบที่ระดับกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นราคาที่มีเสถียรภาพและเอื้อต่อการลงทุน โดยขณะนี้ กลุ่มปตท. มีกระแสเงินสดในมือราว 3-4 แสนล้านบาท ถือว่ามีสภาพคล่องสูง จึงต้องวางแผนบริหารจัดการการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพร้อมสนับสนุนให้ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นบริษัทลูก ที่ปัจจุบันมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดราว 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 1 แสนล้านบาท เร่งเดินหน้าแสวงหาการซื้อกิจการ(M&A)เพิ่ม

ทั้งนี้ ปตท.สผ.อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตหลายรายทั้งที่เป็นรายใหญ่และรายเล็ก โดยเน้นแหล่งปิโตรเลียมในแถบเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก เพราะมีความคล่องตัวในการเข้าไปลงทุนมากกว่าแหล่งปิโตรเลียมที่อยู่ไกล ซึ่งคาดว่าในปีหน้า จะเห็นความชัดเจนในการซื้อกิจการปิโตรเลียมฯเพิ่มเติม แต่จะเป็นกี่แหล่งนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าทางธุรกิจ ซึ่งแหล่งใหม่จะต้องเป็นแหล่งที่ดี และราคาถูก รวมถึงการลงทุนธุรกิจปิโตรเลียมเป็นการลงทุนระยะยาว จึงต้องตัดสินใจวางแผนอย่างรอบคอบ