เผยยอดจดทะเบียนเลิกกิจการเดือนพ.ย.พุ่ง51%

เผยยอดจดทะเบียนเลิกกิจการเดือนพ.ย.พุ่ง51%

"อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า" เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนพ.ย.อยู่ที่ 5,799 ราย เพิ่มขึ้น14% ขณะที่ยอดเลิกกิจการพุ่ง 51%

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือนพฤศจิกายน 2559 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนพฤศจิกายน 2559 จำนวน 5,799 ราย เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวน 5,092 ราย เพิ่มขึ้น 707 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวน 4,520 ราย เพิ่มขึ้น 1,279 ราย คิดเป็นร้อยละ 28 สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกเดือนพฤศจิกายน 2559 มีจำนวน 2,397 ราย เมื่อเทียบกับตุลาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 1,588 ราย เพิ่มขึ้น 809 ราย คิดเป็นร้อยละ 51

ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เดือนพฤศจิกายน 2559 จำนวน 16,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,284 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 14,720 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 280 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 15,724 ล้านบาท ส่วนธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ 803 ราย รองลงมาธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 649 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 351ราย ธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร 120 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 115 ราย ตามลำดับ ​ส่วนห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559) 1,355,900 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 20.42 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการทั่วประเทศ 646,460 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 466,230 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,152 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,078 ราย​

สำหรับ​ภาพรวมการจดทะเบียนการจัดตั้งนิติบุคคลช่วง 11 เดือนแรก 2559 (ม.ค.-พ.ย.) 59,878 ราย สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2558 คิดเป็นร้อยละ 5 เป็นผลมาจากการจดทะเบียนธุรกิจร้านขายทองที่รัฐมีนโยบายส่งเสริมให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลสูงถึง 1,341 ราย ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านอัตราภาษีมากกว่าผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา

นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวยังส่งผลดีต่อธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ให้มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มขึ้นปีนี้และคาดว่าภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งทั้งปีจะสูงประมาณ 63,000 ราย