MORNING CALL ACTION NOTES (14 ธ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (14 ธ.ค.59)

กังวลผลเฟดคืนนี้

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดในภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม ICT และ Electronic แต่ต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิและความกังวลการประชุมเฟดยังกดดันดัชนี ทำให้ SET ปิดที่ 1,530.21 จุด (+3.89จุด) Vol. 4.97 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,617ลบ. TFEX Net 1,312 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 52.96 US/Barrel IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้และปีหน้า

+ จีนเผยยอดค้าปลีก +6.2% และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม+10.8%

+ ครม. อนุมัติช็อปช่วยชาติและ Action plan คมนาคม 8.9 แสนล้านบาท

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

- Foreign พลิกเป็น Net Sell 1.6 พันลบ.

- คาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้ซึ่งอาจกระทบต่อกระแส Fund Flow

ตลาดหุ้นไทยในวันนี้คาดว่าจะได้รับผลบวกจากครม.ที่อนุมัติมาตรการช็อปช่วยชาติและ Action Plan มูลค่า 8.9 แสนล้านบาท อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดยังคงกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในคืนนี้คอยกดดันดัชนี ประเมินกรอบ SET วันนี้ที่ 1,520 - 1,540 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- ครม.เคาะมาตรการช็อปช่วยชาติ BJC HMPRO MC SYNEX ROBINS CPN

- STA ได้รับปย.จากราคายางฯ ทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 3 ปีที่ 262 เยนต่อกิโลกรัม

- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.54 Bath/USD.

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ GL THAI BJC และ SET100 SUPER SPRC TKN BIG THANI VIBHA มีผล 1 ม.ค. 60

หุ้นแนะนำ

SYNEX (ราคาปิด 6.10 แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 6.50 บาท)

- ปัจจัยบวกจากมาตรการช็อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค. ช่วยหนุนยอดขายในไตรมาส 4/59

- คาดไตรมาส 4 รายได้จะสูงที่สุดในปี 59 ที่ราว 6.3 พันล้านบาท จากช่วงไฮซีซั่น การขยายงานภาครัฐ และมาตรการช็อปช่วยชาติ

- คาดจ่ายปันผลทั้งปี 0.28 บาท (จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.1 บาท) คิดเป็นอัตราปันผลสูงถึง 5.3%

หุ้นมีข่าว

- TOP (ราคาปิด 72.25 แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 76) ตั้งเป้ายอดขายปี 2560 ที่ 2.8-3 แสนล้านบาท คาดราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตามความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จ่อบุ๊กรายได้จากโรงไฟฟ้า SPP กำลังการผลิต 239 เมกะวัตต์ เต็มปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

- ANAN ตั้งเป้ายอดโอนในปี 60 เติบโต 66% มาอยู่ที่ราว 2.4-2.6 หมื่นลบ. จากปีนี้ที่คาดว่ายอดโอนจะเป็นไปตามเป้าที่ 1.5-1.6 หมื่นลบ. โดยในปี 60 บริษัทจะรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 1.76 หมื่นลบ. จาก Backlog ทั้งหมด 4.13 หมื่นลบ.

  ความเห็น : แนวโน้มกำไร Q4 น่าจะดีที่สุดรายไตรมาสของปีนี้จากที่ผู้บริหารคาดการณ์รายได้จากการโอน 7,491 ลบ. +158%qoq ปี 60 ประมาณการรายได้จากการโอนมี backlog รองรับแล้ว 17,690 ลบ. คิดเป็น 74% ขณะที่เป้ายอดขาย presale อยู่ที่ราว 2.9 – 3.1 หมื่นลบ.
+35%yoy ฝ่ายวิจัยอยู่ในระหว่างจัดทำประมาณการและบทวิเคราะห์

- ประเด็นบวกหุ้นรับเหมาก่อสร้าง (ITD CK STEC UNIQ SEAFCO PYLON) หลังครม.อนุมัติ Action Plan ของก.คมนาคมปี 2560 จำนวน 36 โครงการ วงเงิน 8.96 แสนลบ.

- LDC ศึกษาร่วมพันธมิตรขยายธุรกิจความงาม คาดผลประกอบการปี 60 ดีกว่าปีนี้หลังหยุดขยายสาขา

- AU บมจ.อาฟเตอร์ ยูกำหนดราคา IPO หุ้นละ 4.50 บาท จองซื้อ 14-16 ธ.ค .และ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 23 ธ.ค.

- BCPG ปันผลระหว่างกาล 0.15 บ./หุ้น XD 26 ธ.ค. วันจ่าย 9 ม.ค.60

- TLUXE จะใช้เงิน 17.46 ลบ.ใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ ACAP เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของบริษัทเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า ขณะที่ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นใน ACAP จำนวน 13.97%

- หุ้นที่เข้าร่วมงาน Opportunity Day 14 ธ.ค. ได้แก่ SIS LIT TRT EFORL

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +114.78 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,911.21 จุด พุ่งขึ้น 114.78 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,463.83 จุด เพิ่มขึ้น 51.29 จุด หรือ +0.95% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,271.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.76 จุด หรือ +0.65%โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 20,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก ก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.15 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 52.98 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมระบุว่า หากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันประสบความสำเร็จในการปรับลดกำลังการผลิตตามที่ได้ตกลงกันไว้ ก็จะส่งผลดีต่อเสถียรภาพราคาน้ำมัน