ไฟเขียวแก้กม.ประกันสกัดฉ้อฉล-เอาเปรียบ

ไฟเขียวแก้กม.ประกันสกัดฉ้อฉล-เอาเปรียบ

"ประยุทธ์" สั่งเพิ่มรายละเอียดพ.ร.บ.ประกันชีวิต-วินาศภัย คุมขายทางมือถือ-บังคับขายพ่วง พร้อมเข้มจริยธรรม-ประวัติผู้ขายประกันป้องกันเอาเปรียบ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วานนี้ (13 ธ.ค.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม.ว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเพิ่มรายละเอียดในร่างพ.ร.บ.ประกันชีวิต และร่างพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย ที่กระทรวงการคลังเสนอมาให้ ครม.พิจารณาทั้ง 2 ฉบับ โดยขอให้เพิ่มการกำกับดูแลพฤติกรรมการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ และการบังคับการขายประกันพ่วงกับการกู้เงินผ่านสถาบันการเงิน เพราะที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเคยได้รับการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

“นายกฯ ขอให้ไปดูแลเรื่องดังกล่าวเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยหลังจากครม.เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว จะเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งในช่วงนี้ก็สามารถแก้ไขรายละเอียดของกฎหมาย เพิ่มข้อห่วงใยของนายกฯ ที่มอบหมายมาบรรจุไว้ในกฎหมายได้ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา”นายกอบศักดิ์กล่าว

สำหรับร่างกฎหมายร่างพ.ร.บ.ประกันชีวิต และร่างพ.ร.บ.ประกันวินาศภัยทั้ง 2 ฉบับ ที่ผ่านการเห็นชอบในหลักการของ ครม.วานนี้ ถือเป็นการปฏิรูปการประกันภัยของประเทศ

สาระสำคัญของร่างกฎหมาย 4 เรื่อง เริ่มจากการป้องกันการฉ้อฉลด้านประกันภัยใน 3 กรณีที่อาจสร้างความเสียหายแก่ประชาชน คือ การหลอกลวงค่าประกันโดยที่ตัวแทนหรือนายหน้าที่ชักชวนประชาชนเข้าทำประกัน เมื่อได้รับเงินไปแล้วกลับไม่ส่งเงินประกันให้กับบริษัทประกัน ทำให้ผู้จ่ายเงินไม่ได้รับการคุ้มครอง รวมทั้งการสร้างหลักฐานเท็จเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ และการให้สินบน เรียกสินบนจากตัวแทน นายหน้า หรือพนักงาน โดยกำหนดโทษจากเดิมที่ยอมความกันได้ เป็นภาครัฐสามารถเป็นเจ้าทุกข์เอาความกับผู้ที่กระทำผิดได้แม้จะมีการยอมความกันแล้ว เพื่อป้องกันการฉ้อฉล และหลอกลวง

ส่วนสาระสำคัญต่อมา มีการกำกับคนกลางในการทำธุรกิจประกันภัยและวินาศภัย โดยที่ผ่านมาในภาพรวมของบริษัทประกันมีตัวแทน และนายหน้าประกันภัยมากถึง 3 แสนคน ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทประกันจะมีหน้าที่กำกับดูแล และออกกฎเกณฑ์เป็นของตัวเอง แต่กฎหมายฉบับนี้ จะออกหลักเกณฑ์มากำกับตัวแทน และนายหน้าโดยตรง เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม โดยผู้ที่เป็นตัวแทนต้องไม่มีประวัติเสียหาย หรือขาดความรับผิดชอบ

ขณะเดียวกัน ยังมีการออกจรรยาบรรณมาควบคุมตัวแทนและนายหน้า ซึ่งคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจะไปวางหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการควบคุม ทั้งการโฆษณา การเปิดเผยข้อมูล การเสนอขายผลิตภัณฑ์ และการส่งเบี้ยประกันภัย รวมทั้งการปรับปรุงมาตรการลงโทษให้เหมาะสมมากขึ้น

ด้านต่อมาเป็นการประเมินวินาศภัยให้กับประชาชนที่ทำประกันวินาศภัย โดยที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุ เช่น กรณีไฟไหม้ หรือเกิดอุบัติเหตุ จะมีผู้ประเมินวินาศภัยที่จะไปดูแลประเมินความเสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา แต่ในอนาคต จะกำหนดให้ผู้ประเมินดังกล่าวที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องเป็นบุคคลที่มีสังกัดอยู่ในบริษัทที่เป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ประเมินวินาศภัย

จากนี้จะมีการตั้งบริษัทขึ้นมากำกับดูแลด้านนี้เฉพาะ เพื่อพัฒนาบุคลากรในเรื่องนี้ต่อไปในอนาคต และปรับปรุงบทลงโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และด้านสุดท้ายเป็นการกำหนดบทบัญญัติเพื่อรองรับการใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนไป

มั่นใจประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่าการดำเนินการทั้ง 4 ด้าน เชื่อว่า จะช่วยปกป้องประชาชนให้ได้รับประโยชน์จากการทำธุรกิจประกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีข้อคิดเห็นว่า กระทรวงการคลังควรให้ความสำคัญและสร้างความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติและความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภค และการอำนวยความสะดวกและความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ควรสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ตัวแทน และนายหน้าประกันภัยอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน

นายกฯสั่งยุติให้ข่าวเหตุเรื่องยังไม่ยุติ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งในที่ประชุมครม.ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการจากกรมบัญชีกลางเป็นบริษัทประกันชีวิต ให้ยุติการให้ข่าวหรือให้ข้อมูลต่าง ๆ อย่าเพิ่งให้ข้อมูลที่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะต้องการให้ทุกเรื่องเป็นที่ยุติใน ครม.ให้เรียบร้อยก่อน

"นายกฯได้สั่งการให้คลังและสาธารณสุข ไปหารือกันในทุกประเด็นให้ชัดเจน ก่อนให้ข้อมูลต่อสังคม เพราะเรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ดังนั้นจึงต้องการให้คลังหาจุดลงตัวที่เป็นจุดอ่อนที่สังคมสงสัยให้ได้ชัดเจนก่อน”

ยันจำเป็นต้องดึงสาธารณสุขช่วยกำกับ

ทั้งนี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ชี้แจงในที่ประชุม ครม.ว่า เนื่องจากสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นราคาการดูแลสุขภาพของข้าราชการจึงสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันกรมบัญชีกลางมีหน้าที่เพียงแค่จ่ายเงิน ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการกระทำการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ จึงต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ เพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง

นอกจากนี้รมว.คลัง ยังชี้แจงโดยย้ำว่า คลัง ไม่ได้มีนโยบายให้ข้าราชการต้องไปทำประกันชีวิตใดๆ แต่โครงการนี้แทนที่จะให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่าย บริษัทประกันที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามราคาที่ตกลงกันไว้ โดยมีคุณภาพเท่าเดิม

นายกฯชี้มีปัญหารั่วไหล-ทุจริต

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคน อย่านำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ และอยู่ระหว่างการศึกษาระบบที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการ แต่ต้องหาวิธีการที่ดีที่สุด แต่หลักการคือดูแลเหมือนเดิม คือระมัดระวังการรั่วไหลของงบประมาณ เพราะมีปัญหาเรื่องการรั่วไหลของงบประมาณและการซื่อสัตย์สุจริต โดยกรมบัญชีกลางมีหน้าที่เพียงจ่ายเงินเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมงบประมาณโดยตรง ซึ่งระบบดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ หากใช้บริษัทเอกชนเข้ามาดูแล ก็จะใช้งบประมาณจำนวนมากที่จะสร้างระบบให้ครอบคลุมการเชื่อมโยงระบบรักษาพยาบาล

“ต้องใช้ระบบแบบเดิมไปก่อน และขอข้าราชการอย่าไปเบิกยาทุกวัน ในหลาย ๆที่ เพราะควบคุมลำบากและยังไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่ความซื่อสัตย์สุจริต”