กสิกรไทยตั้งเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปี60โต6%

 กสิกรไทยตั้งเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปี60โต6%

แบงก์กสิกรไทย โชว์สายงานกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ล่าสุด สินเชื่อรายใหญ่ทะลุเป้าหมายที่ 3-5% มาแตะที่ 6-7% พร้อมวางเป้าหมายปี60โตไม่ต่ำกว่า 4-6%

 

 คุมหนี้เสียเข้าทางระดับต่ำ0% หวังจีดีพีปีหน้าโตระดับใกล้เคียงปีนี้3.3%

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานผลิตภัณฑ์บรรษัทและผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ยอดปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารช่วงที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก สามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3-5% โดยช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้สูงถึง 6-7% และตลอดทั้งปีนี้คาดว่าสินเชื่อรายใหญ่จะเติบโตในระดับ6-7%

สำหรับแผนการปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในช่วงปี 2560 นั้นธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตของสินเชื่อดังกล่าวที่ 4-6% พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมจากกลุ่มลูกค้านี้ให้เติบโตราว 4% ส่วนด้านส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงปีหน้า ธนาคารคาดหวังประมาณ 21%

เขายังกล่าวถึงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ว่าอยู่ในระดับต่ำหรือ 0% เป็นผลมาจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความระมัดระวังในการขยายธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนทางธนาคารเองก็มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเช่นเดียวกันทำให้หนี้เสียในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ไม่เกิดให้เห็น

ล่าสุดธนาคารได้ลงนาม ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินมูลค่า 1,800 ล้านบาทกับ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น  เพื่อการลงทุนในโครงการด้านพลังงานซึ่งถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศไทยขนาด 40 เมกะวัตต์และมีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศอีกด้วย

 ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2560 จะมีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปีนี้ คือ จีดีพีโต 3.3%จากการใช้จ่ายและการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะขยายตัว 8.5% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 2.8% ตัวเลขจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเติบโตได้ที่ 4.8%   ด้านการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 0.8% ขณะเดียวกันต้องติดตาม ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ อาทิ   BREXIT และความเปราะบางภายในยุโรป การทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายและทำให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า เศรษฐกิจจีนที่อาจยังคงชะลอตัว  ปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศ ทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนจะยังฟื้นตัวในกรอบที่จำกัด