หัวเว่ยหวังที่3สมาร์ทโฟนไทย

นายไมเคิล จิ่ง ผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า 2559 นับเป็นปีทองของหัวเว่ยในประเทศไทย เนื่องจากแม้เศรษฐกิจทรงตัวแต่บริษัททำยอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 200% เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ วัดเชิงมูลค่าครองอันดับ 4 ตลาดสมาร์ทโฟนไทย

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ บริษัทเดียวกัน กล่าวเสริมว่า ปีหน้าเตรียมเพิ่มงบการตลาดอีก 1 เท่า โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้หัวเว่ยขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ตลาดสมาร์ทโฟนไทย หรือเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากปัจจุบันตัวเลขหลักเดียวเป็น 2 หลักให้ได้

หลังจากนี้ จะเพิ่มนำ้หนักทั้งเชิงการตลาด สร้างแบรนด์ พร้อมพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย ปัจจุบัน มีหน้าร้านวางจำหน่ายสินค้ามากกว่า 5,000 ร้านค้า นับจากกลางปีที่ผ่านมาพนักงานขายเพิ่มขึ้น 2 เท่า ขณะนี้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายแข็งแกร่งมากขึ้น มากกว่านั้นครอบคลุมทั้งช่องทางไอทีและค้าปลีกชั้นนำ

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากผลิตภัณฑ์พรีเมียมราคา 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป 40% กลาง 5,000-1.5 หมื่นบาท 40% และล่างต่ำกว่า 5 พันบาท 20%

พร้อมประเมินว่า ไทยเป็นประเทศน่าลงทุน ขณะเดียวกันตลาดรวมสมาร์ทโฟนไทยปีหน้ายังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องระดับตัวเลขหลักเดียว ที่น่าสนใจพบว่าแม้ไทยเป็นตลาดเกิดใหม่แต่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเครื่องระดับพรีเมียม อีกทางหนึ่งขณะนี้เครื่องระดับ 2 หมื่นบาทขึ้นไปยังมีตัวเลือกน้อย

ล่าสุด หัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ใหม่ ประกอบด้วย “หัวเว่ย เมท 9 ซีรีส์” ระดับไฮเอนด์ 3 รุ่น “หัวเว่ย เมท 9” หน้าจอเอฟเอชดี ขนาด 5.9 นิ้ว “หัวเว่ย เมท 9 โปร” หน้าจออโมเลด ทรงโค้ง 5.5 นิ้ว พร้อมด้วยรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น “พอร์ช ดีไซน์ หัวเว่ย เมท 9” หน้าจออโมเลด 5.5 นิ้วทรงโค้ง มีจำหน่ายในไทยเพียง 800 เครื่อง

สำหรับราคาและกำหนดการวางตลาด รุ่น เมท 9 ราคา 23,900 บาท จีอาร์ 5 ราคา 8,900 บาท เริ่มจำหน่าย 8 ธ.ค. ขณะที่ รุ่น เมท 9 โปร ราคา 27,900 บาท พอร์ช ดีไซน์ เมท 9 ราคา 49,900 บาท เริ่มจำหน่ายกลางเดือนม.ค.2560