GRAMMY - ถือ

GRAMMY - ถือ

ช่องวันเปิดรับฐานทุนใหม่

ประเด็นการลงทุน

ดิจิตอลทีวีกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เราเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างใน 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มแรกสถานีโทรทัศน์จำนวน 2 ช่องถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลในเดือนก.พ.เนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัดประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อปูทางให้กับผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ กลุ่ม วัฒนภักดี โดยกรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการดิจิตอลทีวีบางรายกำลังประสบปัญหาในการดำเนินงาน แต่เรามองว่าไม่ใช่กับ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์ (ซึ่ง GRAMMY ถือหุ้น 51%) ถึงแม้ว่า เดอะ วัน จะเพิ่มทุนสำหรับผู้ถือหุ้นรายใหม่ นั่นจะทำให้ฐานทุนแข็งแกร่งขึ้น แต่ในแง่ผลประกอบการเราจะเห็น การขาดทุนหลักของช่อง ONE ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยะสำคัญอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากคอนเท็นต์ที่แข็งแกร่ง

การเพิ่มทุนครั้งนี้น่าจะส่งผลเชิงบวกระยะสั้นต่อกำไรของ GRAMMY เนื่องจากส่วนแบ่งขาดทุนที่จะลดลงจาก ONE ในช่วงปี 2560-2562แต่ในแง่ของมูลค่าหุ้นส่วนแบ่งกำไรระยะยาวจะลดลงและทำให้ราคาเป้าหมายลดลงมาอยู่ที่ 8.70 บาท ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากผู้ถือหุ้นใหม่เข้าไปในประมาณการของเราซึ่งยากที่จะประเมินได้ในปัจจุบัน

การเพิ่มทุนสำหรับ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์

บริษัทประกาศเพิ่มทุนสำหรับ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์อีก 1.905 พันล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 19.05 ล้านหุ้น (มูลค่ารวม 3.81 พันล้านบาท) ให้กับบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด (โดยมี คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.98%) เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์จะแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ช่วง (ครั้งแรก 5 ล้านหุ้นในวันที่ 28 ก.พ. 2560 และครั้งที่ 2 อีก 14.05 ล้านหุ้นในวันที่ 31 พ.ค. 2560) หลังจากการเพิ่มทุนทั้ง 2 ครั้งของเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์เสร็จสิ้นลง GRAMMY จะถือหุ้น 25.5% กลุ่มคุณถกลเกียรติถือหุ้น 24.5% และบริษัท ประนันท์ภรณ์ถือหุ้น 50%

ถึงเวลารบแล้ว!

เราเชื่อว่าเงินที่ได้จากเพิ่มทุน เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์ จะชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลในปีหน้าและลงทุนในด้านคอนเทนต์โปรดักชั่น การมีพันธมิตรที่พร้อมด้วยเงินทุนและคอนเน็คชั่นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม (ทั้งกลุ่มการแพทย์ BDMS และกลุ่มขนส่ง BA) จะช่วยให้บริษัทมีเงินทุนและหนุนความมั่นใจในการทำธุรกิจในอนาคตเพื่อยืนหยัดเหนือคู่แข่งได้ ในการแข่งขันนี้ผู้ประกอบการที่จะยืนหยัดอยู่ได้คือผู้ที่มีคอนเท้นต์และเงินทุนที่แข็งแกร่ง เราเชื่อว่าช่อง ONE จะเป็น 1 ในนั้น ด้วยเงินทุนใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น เราเชื่อว่า เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์มีแนวโน้มจะพลิกเป็นกำไรได้เร็วกว่าที่เราคาด

เชิงบวกระยะสั้นสำหรับกำไรของ GRAMMY

เราปรับลดส่วนแบ่งขาดทุนจากสมมติฐาน เดอะ วันเอ็นเตอร์ไพรซ์ลง 50% สำหรับปี 2560-2562เราประมาณการกำไรหลักรวมที่ 82 ล้านบาท ในปี 2560 เทียบกับขาดทุนหลักก่อนหน้านี้ที่ 49 ล้านบาท และเราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2561 ขึ้น 28% มาอยู่ที่ 241 ล้านบาท เราปรับลดราคาเป้าหมายลง 11% มาอยู่ที่ 8.70 บาท เพื่อสะท้อนมูล่าเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ปรับตัวลดลงโดยใช้วิธี SOTP