วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 ธันวาคม 2559

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังกลุ่มโอเปคบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตและรัสเซียมีแนวโน้มเข้าร่วม
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน หลังกลุ่มโอเปคบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม ในวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยจะปรับลดลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งแรกของกลุ่มโอเปคครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ม.ค. 2560
+ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคก็มีแนวโน้มที่จะร่วมลดกำลังการผลิตลงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 นี้ โดยกลุ่มโอเปคเสนอให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคปรับลดกำลังการผลิตลงทั้งสิ้นราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้รัสเซียจะร่วมลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบกับกลุ่มโอเปคเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยคาดว่าจะลดกำลังการผลิตลงประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
+ นอกจากนี้ อาเซอร์ไบจัน ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคที่พร้อมที่จะเข้าร่วมการลดกำลังการผลิตครั้งนี้ โดยนายนาติก อาลิเยฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอาเซอร์ไบจัน ได้กล่าวว่า อาเซอร์ไบจันไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2560 นี้และพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปคและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคในวันที่ 9 ธ.ค. นี้หากได้รับเชิญให้ร่วมการประชุม
- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงกังวลว่า ข้อตกลงของกลุ่มโอเปคจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมาในระยะสั้นเท่านั้น และจะไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ เนื่องจากระดับราคาดังกล่าวจะทำให้น้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐ กลับมาสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากข้อตกลงของกลุ่มโอเปคไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ราคาน้ำมันดิบน่าจะปรับตัวลดลงอีกครั้ง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการจะกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นในประเทศโอมาน ประกอบกับมีการส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มเติมจากประเทศอินเดียอีกด้วย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจากประเทศเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากประเทศจีนที่ดีขึ้นก็ตาม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49 – 54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 51 – 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ภาวะอุปทานโลกล้นตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมกลุ่มโอเปควันที่ 30 พ.ย. กลุ่มโอเปคสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการตกลงกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดยการปรับลดกำลังการผลิตนำโดย ซาอุดิอาระเบีย อิรัก คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต
- จับตาดูการประชุมระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปค และนอกกลุ่มโอเปคในวันที่ 9 ธ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปค โดยกลุ่มโอเปคเสนอให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคปรับลดกำลังการผลิตลงทั้งสิ้นราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่ากว่า 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาจากการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซีย
-----------------------------------------------------
ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999







