สั่งปิดแล้ว! โรงแรมของแฟน 'อุ้ม ลักขณา' ไม่มีใบอนุญาต

สั่งปิดแล้ว! โรงแรมของแฟน 'อุ้ม ลักขณา' ไม่มีใบอนุญาต

จนท.ฝ่ายปกครอง-ตร.พรึ่บ! ลุยตรวจโรงแรมของ "บอล กฤษณะ" แฟนหนุ่มของ "อุ้ม ลักขณา" ชี้สั่งปิดทันทีเหตุไม่มีใบอนุญาต พร้อมดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ และนายปรีชา นันตาสาย ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรม The Core ซึ่งเป็นของ “บอล” หรือนายกฤษณะ อมิตรสูญ แฟนหนุ่มของ "อุ้ม” ลักขณา วัฒนวงศ์ศิริ

โดยจากการเข้าตรวจสอบพบว่า โรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่เลขที่ 99/58 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อยู่เยื้องกับด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ชั้น 1 เป็นส่วนจัดต้อนรับสำหรับแขกผู้เข้าพัก ส่วนชั้นที่2-4 เปิดให้บริการห้องพักจำนวนรวมกว่า 56 ห้อง และชั้นดาดฟ้าทำเป็นร้านอาหารเปิดโล่งลักษณะมุมสบายสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ทั้งในตอนเช้าและยามค่ำคืน

นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการดำเนินการตรวจเข้าไปตรวจสอบทั้งตัวอาคารของโรงแรมและตรวจสอบเอกสารต่างพบว่า เจ้าของได้ขออนุญาตก่อสร้างเป็นตึกแถวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรม

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนี้ และได้เชิญตัว น.ส.สุพิชญ์ญา ประดิษฐ์พัชรกุล อายุ 30 ปี ผู้จัดการทั่วไป และการตลาดของโรงแรม The core ให้นำเอกสารมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ถึงวิธีการดำเนินการเรื่องเอกสารของโรงแรม และยอมรับว่า โรงแรม The core มีเพียงใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารลักษณะของตึกแถวเท่านั้น โดยในส่วนของใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมยังอยู่ในระหว่างการยื่นขอ

ขณะที่โรงแรมได้เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมา และมีหุ้นส่วนด้วยกัน 3 คน คือ นางพีรยา คุวานันท์ และสามี (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) รวมไปถึง “บอล” กฤษณะ อมิตรสูญ แต่ในการจดทะเบียนทางกฎหมายมีเฉพาะชื่อของนางพีรยาและสามีเท่านั้น ส่วนบอล หรือนายกฤษณะ ได้รับมอบหมายให้เป็นเพียงผู้บริหารโรงแรม

จากนั้นจึงได้มีการควบคุมตัว น.ส.สุพิชญ์ญา ประดิษฐ์พัชรกุล อายุ 30 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก พร้อมทั้งสั่งให้ปิดบริการและ หากยังฝ่าฝืนเปิดอยู่ ก็จะปรับเป็นเงินวันละ 10,000 บาท โดยหลังจากนี้จะมีการสุ่มเข้าตรวจสอบอีกหากพบยังฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีซ้ำ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทางกฏหมาย