'พาณิชย์' ยันราคาข้าวขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

'พาณิชย์' ยันราคาข้าวขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ปลัดพาณิชย์" ยันราคาข้าวขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐฯ คลอดโครงการหนุนเกษตรกรอย่างทั่วถึง เตรียมเดินหน้ามาตรการระยะยาว

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดงานรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคข้าวกินข้าวดี ชีวิตดี๊ดี โดยระบุว่า ปัจจุบันราคาข้าวเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว อีกทั้งยังเห็นว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มคลี่คลาย ทั้งประเด็นราคา และเรื่องคุณภาพข้าว ขณะที่ปัญหารถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอทางภาครัฐฯ และเอกชนก็เข้าไปช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแล้ว

ส่งผลให้มาตรการสนับสนุนในขณะนี้ กระทรวงฯ จึงมองถึงการเปิดโอกาส เปิดช่องทางให้ชาวนาได้ขายผลผลิตข้าวโดยตรงกับผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมให้ชาวนามีอาชีพเพิ่มเติม เป็นทั้งผู้ทำนา ปลูกข้าว และขายข้าวด้วย ซึ่งการสนับสนุนเช่นนี้ก็ตอบโจทย์กับนโยบายผลักดันชาวนาสู่ “สมาร์ทฟาร์มเมอรร์” โดยกระทรวงฯ จึงเริ่มต้นเปิดเวทีการค้าผ่านโครงการ “กินข้าวไทย ช่วยชาวนาไทย” ที่ร่วมกับผู้ประกอบการกลุ่มเซ็นทรัล จัดพื้นที่ให้ชาวนาสามารถนำข้าวมาขายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“กิจกรรมแรกที่จัดนี้ระหว่างวันที่ 24 – 27 พ.ย. 2559 รวม 4 วัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต และจะจัดต่อเนื่องครั้งที่สองวันที่ 1 – 4 ธ.ค.นี้ ณ ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ รวมทั้งจะจัดในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งกระทรวงฯ คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมนี้ จะช่วยให้ชาวนาสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังจะเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มวัยรุ่นมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคข้าวอย่างถูกต้อง เนื่องจากปัจจุบันวัยรุ่นมักมองว่าการบริโภคข้าวจะทำให้อ้วน”

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความสำเร็จจากการวางนโยบายการตลาดข้าวครบวงจรและมาตรการต่างๆ ของรัฐ ที่ทำให้ระบบกลไกตลาดการค้าข้าวเดินหน้าได้ ระบุมาตรการช่วยเหลือชาวนาถูกจุดมีประสิทธิผล และพบว่าสถานการณ์ข้าวขณะนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงฯ จึงมีการวางแผนส่งเสริมกลไกการจำหน่ายข้าวของเกษตรกรให้ยั่งยืนผ่านการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก โดยมีการริเริ่มดำเนินการไปแล้ว 25 ครั้ง ใน 17 จังหวัด

“การจัดงานตลาดนัดข้าวเปลือกที่กระทรวงฯ ดำเนินการส่งเสริมไปแล้วนั้น มีปริมาณขายรวมราว 2 หมื่นตัน ด้วยมูลค่าจำหน่าย 140 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกเจ้า ตามแต่ละพื้นที่ โดยเกษตรกรได้รับราคาสูงกว่าตลาดตันละ 50 – 500 บาท ตามชั้นคุณภาพ หลังจากนี้กระทรวงฯ จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปีหน้าเพื่อเป็นการส่งเสริมตลาดข้าวในระยะยาว”