เพลิงเผารง.เย็บผ้าขนหนูวอด เสียหาย10ล.

เพลิงเผารง.เย็บผ้าขนหนูวอด เสียหาย10ล.

เพลิงเผาโรงงานเย็บผ้าขนหนู ย่านพระสมุทรเจดีย์ วอดทั้งหลัง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

สมุทรปราการ-เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 พ.ย.59 พ.ต.ต.สุนทร พิมพันธุ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บริษัท สหโรจน์เท๊กซ์ไทล์ (1991) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตผ้าขนหนูส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เลขที่ 144/1-6 ม.8 ซ.สุขสวัสดิ์ 84 (ซอยคู่สร้าง) ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย. พ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พ.ต.ท. อุทัย ขันทอง รอง.ผกก.ป พ.ต.ท. ฤกธิ์ชัย แสงสว่าง รอิง.ผกก.สส รวมทั้งประสานรถดับเพลิงจาก อบต.คลองบางปลากดและท้องที่ใกล้เคียงกว่า 10 คันเข้าสกัดเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นตู้คอนเทนเนอร์วางเรียนซ้อนกันจำนวน 15 ตู้ ภายในมีผ้าม้วนซึ่งเป็นวัตถุดิบที่รอจัดส่งให้ลูกค้า ซึ่งตั้งอยู่ด้านห้างของบริษัท สหโรจน์เท๊กซ์ไทล์ (1991) จำกัด โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงบริเวณชั้น 2 ของโกดัง ไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังชั้น 3 และบริเวณโกดังที่อยู่ติดกัน แต่เนื่องจากบริเวณชั้น 2 มีกองผ้าขนหนูที่รอการผลิตที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและเครื่องจักรเย็บผ้า ขนาดเล็ก เป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ไปยังชั้น 3 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำราว 3 ชั่วโมงแต่เพลิงยังไม่สงบ จึงต้องประสานขอรถดับเพลิงเพิ่มจาก กทม. ทั้งนี้ เพลิงได้ไหม้เป็นระยะเวลานาน และโครงสร้างของโกดังเริ่มมีรอยร้าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง

นายสงวน โชคชัยชรินทร์ อายุ 70 ปี เจ้าของโรงงานดังกล่าว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาเลิกงานของพนักงานกะดึกพอดี พนักงานที่ทำงานอยู่ในโกดังจึงเตรียมเก็บของกลับบ้าน แต่บังเอิญเห็นมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากด้านหลังของตู้คอนเทเนอร์ใกล้ห้องเก็บม้วนผ้า จึงช่วยกันนำถังเคมีมาดับ แต่ไฟก็ยังลุกลาม จึงโทศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยดับเพลิงดังกล่าว ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไม่ให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา ภายในพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนั้นขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และหลังเพลิงสงบให้นำอุปกรณ์มากั้นล้อม ติดป้ายห้ามไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในโกดัง ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ คงต้องรอให้เพลิงสงบ แล้วจึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ ปภ.จังหวัดสมุทรปราการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านบาท