“ฮัสกี้ส์”แตกไลน์ธุรกิจ งัดแลนด์แบงก์รุกอสังหา

“ฮัสกี้ส์”แตกไลน์ธุรกิจ งัดแลนด์แบงก์รุกอสังหา

กระเป๋า “ฮัสกี้ส์” แตกไลน์ธุรกิจเจาะอสังสังหาฯ ชี้เป็นตลาดใหญ่ มีช่องว่างสำหรับรายใหม่ ประเดิมโครงการแรก"เมลานี แบงคอก"มูลค่า 760 ล้าน

นายพงษ์ อิงคสิทธิ์ ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด เครือบริษัท ฮัสกี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเป๋า ”ฮัสกี้ส์” เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโต และมีช่องว่างให้รายใหม่ ประกอบกับมีที่ดินสะสมไว้หลายแปลง เช่น ถนนจันทร์ เนื้อที่กว่า 1 ไร่ , บางบัวทอง ประมาณ 40 ไร่ และ มีนบุรี ประมาณ 2 ไร่ ทำให้มีต้นทุนต่ำในการนำมาพัฒนาโครงการทำให้แข่งขันได้

“โอกาสทุกธุรกิจมีอยู่รอบตัว ทุกธุรกิจมีความคล้ายคลึงกัน ที่ต้องใช้หลักบริหารการตลาดนำ ต้องสร้างความแตกต่างให้กับตลาด และสำคัญขึ้นอยู่กับทำเล และโปรดักท์ ที่แตกต่าง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริงๆ ”

ทั้งนี้บริษัทจะเน้นการพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและคอนโด โดยขึ้นอยู่กับทำเลและความต้องการของผู้บริโภค โดยจะเริ่มที่ทำเลถนนจันทร์เป็นแห่งแรก พัฒนาโครงกา “เมลานี แบงคอก” คอนโด 8 ชั้น 123 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท มูลค่า 760 ล้านบาท โดยจะเปิดขายในเดือนธ.ค.นี้ คาดก่อแล้วเสร็จปี 2562

นายพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากธุรกิจกระเป๋าประมาณ 80-100 ล้านบาท แต่อนาคตคาดว่าตลาดจะเติบแบบคงที่ ธุรกิจอสังหาจะเข้ามามีบทบาทสร้างการเติบโตได้ดีกว่า 

ด้านนางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริษัท เจแอลแอล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารการขายโครงการ “เมลานี แบงคอก” กล่าวว่า ตลาดอสังหาในทำเลถนนจันทร์-สาทร เป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นทำเลที่เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้แหล่งธุรกิจ หรือ ซีบีดี และมีโครงการเกิดใหม่น้อย ทำให้จำนวนยูนิตเหลือขายไม่มาก ต่างจากทำเลสุขุมวิทตอนปลาย และทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีจำนวนซัพลพายค่อนข้างมาก 

ปัจจุบันราคาขายคอนโดทำเลถนนจันทร์-สาทร อยู่ที่ 1.3-1.4 แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งถ้าลงทุนปล่อยเช่าจะสามารถปล่อยเช่าได้เฉลี่ย 600 บาทต่อตร.ม. ขณะที่อพาร์ทเม้นท์ในย่านดังกล่าว สามารถปล่อยเช่าได้ที่ 1-1.5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า