ชาวนาน้ำตาตก! โจรอาละวาดซ้ำเติม ลักข้าวเปลือกคาลานตาก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 พ.ย.59 พ.ต.ท.วิชิต น้อยวิเศษ สารวัตรสืบสวนสภ.บ้านค่าย พร้อมด้วยกองกำลังรักษาความสงบ จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากชาวนาว่ามีข้าวเปลือกที่ชาวนาได้นำมาตากไว้หน้าบ้าน ในซอยชุมชนสันติสุขพัฒนา หมู่ 1 บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ หายไปเป็นจำนวนมาก

จึงเร่งช่วยกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นการด่วน ซึ่งเป็นบ้านของ นางตระกูล หารรักษ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 331/1 ชุมชนสันติสุขพัฒนา หมู่ 1 บ้านค่ายหมื่นแผ้ว พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น หน้าบ้านทำเป็นลานตากข้าวเปลือกไว้จำนวนมากหลังได้เก็บเกี่ยวผลิตมาได้ไม่กี่วัน เพื่อตากไว้ให้แห้งเพื่อจะได้นำไปสีขายต่อไป แต่รุ่งเช้าที่ผ่านมาลงมาดูลานตากข้าวหน้าบ้านก็กลับพบว่ามีข้าวหายไปจำนวนมาก

นางตระกูล ให้การต่อเจ้าหน้าที่ทั้งน้ำตา ว่าเมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ตนและครอบครัวได้ทำการจ้างรถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวที่ทุ่งนา 6 ไร่ ได้ข้าวมากกว่า 1 ตัน ซึ่ง ปีนี้ได้ข้าวน้อยกว่าที่ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากเกิดน้ำท่วมขังในนาข้าว ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อย จึงนำมาตากไว้บริเวณลานหน้าบ้าน จนช่วงเวลา24.00น. ซึ่งยังมีชาวบ้านและญาติของตนนั่งเล่นเฝ้าข้าวที่ตากไว้ที่หน้าบ้านอยู่ใต้ถุนบ้าน
และแยกย้ายกันไปนอนพักผ่อนกว่าเที่ยงคืน พอตื่นเช้าลงมาดู ที่ลานตากข้าวเพื่อจะเกลี่ยข้าว ก็พบร่องรอย ข้าวที่ตากและกองข้าวได้พร่อง

จึงเรียกญาติมาดูเพื่อให้แน่ใจ เมื่อได้รับ คำยืนยันจากญาติแล้วว่าข้าวนั้นหายจริงตนถึงกับเข่าทรุด และร้องไห้ออกมา ด้วยข้าวที่จะนำไปขายนี้ จะต้องเอาไปใช้หนี้ ให้กับรถเกี่ยวและ ธกส. และใช้จ่ายอย่างอื่นในครอบครัวอีก ทำให้ตนถึงกับกั้นน้ำตาไม่อยู่ หมดกําลังใจ เสียใจเป็นอย่างมาก และอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งตามจับคนที่ขโมยข้าวครั้งนี้ไปมาคืนให้ได้โดยเร็วด้วย

เจ้าหน้าที่ หลังได้ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุแล้ว และคาดว่า น่าจะไม่ใช่กลุ่มนักขโมยข้าวมืออาชีพ โดยลักษณะการขโมยข้าวครั้งนี้เอาไปบางส่วนประมาณ 7-8 กระสอบ ประกอบกับสุนัขในบ้านก็ไม่เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้า จึงน่าจะเป็นคนคุ้นเคยหรือในพื้นที่ และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดป้องกันเหตุออกตรวจตลอดทุกคืน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงริมถนน ริมทุ่งนา ที่เปลี่ยวที่มีการตากข้าว แต่ลานตากในบริเวณบ้านซึ่งมักจะมีคนเฝ้าไม่เป็นพื้นที่เสี่ยงมากนัก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามหาคนร้ายหัวขโมยที่ก่อมาดำเนินคดี ตามกฎหมายให้เร็วที่สุดต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นคนในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุและน่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ไม่ยากในเร็วๆนี้ต่อไป