แนะนักลงทุนทองรับเสี่ยงได้ฉวยจังหวะซื้อเล่นสั้น

แนะนักลงทุนทองรับเสี่ยงได้ฉวยจังหวะซื้อเล่นสั้น

“วายแอลจี”แนะนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ หาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำดีดตัวขึ้น

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาทองค วันนี้ (18พ.ย.) แกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,203.86-1,217.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,650 บาทต่อบาททองคำ (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 18 พ.ย.59)

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในวันที่ 21 พ.ย.นี้ บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ ปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน 

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 235,000 ราย ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 43 ปี และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 ปี ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ช่วยหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และปัจจัยนี้ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสว่า เฟดจะไม่ปรับเปลี่ยนแผนการในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ถ้าหากไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งนางเยลเลนยังให้สัญญาว่า จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ โดยไม่ได้แสดงถึงความกังวลต่อดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่แข็งค่าขึ้น จนแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่ง 

สิ่งนี้ตลาดตีความว่า เฟดเปิดทางยินยอมให้นักลงทุนหนุนดอลลาร์ขึ้นต่อ สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงขายเข้ามาในตลาดทองคำ อย่างไรก็ดี นางเยลเลน ยอมรับว่า มีความไม่แน่นอนในอนาคตจากโครงการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และหากมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เฟดอาจต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ 

ด้านค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามาแตะระดับ 35.63 ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ ได้ชะลอการอ่อนตัวลงของราคาทองคำภายในประเทศให้น้อยกว่าการอ่อนตัวลงของราคาทองคำ ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ หาจังหวะซื้อเล่นสั้น เมื่อราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,221-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่า ระยะสั้นหากราคาทองคำขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,221-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้ อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ หากไม่ผ่าน ราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง 

"หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อ เมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ"

อย่างไรก็ตาม วายแอลจี ย้ำว่า นักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด