นอนแบงก์เทรดคึก รับ 'ทรัมป์' ขึ้นผู้นำคนใหม่

นอนแบงก์เทรดคึก รับ 'ทรัมป์' ขึ้นผู้นำคนใหม่

หลัง "โดนัลด์ ทรัปม์" ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ สหรัฐ พบว่าหุ้น "กลุ่มไฟแนนซ์" ปรับเพิ่มขึ้นมากสุด

ตลาดหุ้นไทยหลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจบลง ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แต่หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทาง โดยเฉพาะกลุ่มนอนไฟแนนซ์ราคาหุ้นวิ่งอย่างคึกคัก และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนมากที่สุดในตอนนี้

บล.ฟินันเซียไซรัสร ะบุว่า กลุ่มไฟแนนซ์ เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็น2.3% และเป็นเพียง 1 ใน 2 กลุ่มที่บวกสวนตลาดในรอบ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่ Trump ชนะเลือกตั้ง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง2.3% สอดคล้องกับกำไรไฟแนนซ์ไตรมาส 3/2559ที่โตแรงกว่าทุกกลุ่ม เพิ่มขึ้น47%จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดกำไรทั้งปี เพิ่มขึ้น 28%จากงวดเดียวกันปีก่อนและคาดปีหน้า เพิ่มขึ้น 23%จากงวดเดียวกันปีก่อนเเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตสูง หุ้นที่กำไรโตสูงสุดคือบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) GL แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า Fully valued แล้ว หุ้นที่กำไรโตสูงรองลงมา บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) MTLS , บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน)LIT และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)KTC

 บล.บัวหลวง ระบุว่า บริษัทเมืองไทย ลิสซิ่ง มีกำไรไตรมาส3/59 ที่ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากงวดเดียวกันปีก่อนสูงกว่าที่คาด 21% จากการสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ลดลง กำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียอยู่ที่ 717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% กำไรรวม 9 เดือนของปี 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 68% มาอยู่ที่ 981 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรเดิมของปี 2559 ที่ 1.27 พันล้านบาท

     ฝ่ายวิจัยคาดไตรมาสที่ 4ปีนี้ ยังสูงจากไตรมาสก่อน โดยทำสถิติใหม่ ตามแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและได้ปรับเพิ่มประมารการการเติบโตของสินเชื่อปี 2559 มาอยู่ที่ 75% จากเดิม 60% หลังจากที่บริษัท สามารถขยายฐานสินเชื่อ กว่า 53% จากปลายปี สำหรับประมาณการสินเชื่อเติบโตปี 2560 ยังคงที่ 27% ส่งผลให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไร 6.3% ในปี 2559 มาอยู่ที่ 1.35 พันล้านบาท และ 6.1% ในปี 2560 มาอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ให้ความเห็นว่า บริษัทกรุ๊ปลีสมี กำไรจากต่างประเทศ (รวม TNB) เพิ่มขึ้นเป็น 62% ในไตรมาส3/2560 โดยกำไรจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อจำนำคิดเป็น 38% ของกำไรทั้งหมดในไตรมาส 3/2559 ลดลงจาก 40% ในครึ่งปีแรก เพราะกำไรจากต่างประเทศสูงขึ้น และเริ่มมีกำไรจากอินโดนีเซีย

แนวโน้มไตรมาส 4/2559 สดใส โดยจะเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้กำไรจากอินโดนีเซีย เมียนมาร์ และศรีลังกา ขณะที่ธุรกิจในกัมพูชา และลาว เติบโตในโมเมนตัมใกล้เคียงกับช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนในไทยจะขยายตัวได้ดีขึ้น คาดการณ์ในเบื้องต้นว่ากำไรสุทธิไตรมาส4/2559 จะเพิ่ม 86%จากงวดเดียวันของปีก่อน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะมีส่วนแบ่งกำไรมาจากเมียนมาร์ผ่าน BGMM 1 ล้านบาท, จากอินโดนีเซียผ่าน GLFI 2 ล้านบาท และจาก CCF 58ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิปี 60 จะเพิ่มเท่าตัวจากงวดเดียวกันปีก่อน โดยรับรู้รายได้จากอินโดนีเซีย, เมียนมาร์ และศรีลังกา เต็มปี โดยกำไรไม่ได้มาจาก BGMM เท่านั้น ยังมาจากธุรกิจบริการที่เริ่มต้นในปี 60 ด้วย ซึ่งในระมาณการของฝ่ายวิจัย กำไรจากกัมพูชาจะเป็นสัดส่วนสูงที่สุด ธุรกิจในไทยดีขึ้น สินเชื่อจะเริ่มขยายตัวได้หลังจากหดตัวในปี 58-59

ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มนอนแบงก์ประกอบด้วย หุ้นเมืองไทยลิสซิ่ง เพิ่มขึ้น 19.79%หุ้นกรุ๊ปลีส 4.95% หุ้นเจเอ็มที 2.61% หุ้นเคทีซี ลดลง 8% และหุ้นลีซอิทลด ลง8.9%